Sunday, 16 January 2011

บทที่ 66 " Mission 4 [ Middle East ] - Death from above "

Heroes may not be braver than anyone else, They're just braver five minutes longer. - Ronald Reagan
********************************************************************************
0713 pm
South of Amu Darya River, Turkmenistan
Sub.Lt. Sithikorn "N" Sashiez
Special Task Force 121 - USASOC
Overlord - "Viper 1, this is overlord. What's your status ???"
ผม - "Not good sir, We're tracked by immense troops. .....I'm not sure we can survive to border without CAB ( Close Air Support ) sir."
Overlord - "How about other officer ???"
ผม - "They're gone sir ....just 3 left here, he's a pilot, flight engineer and S2 officer."
Overlord - "OK, I will send AC-130 Spectre to cover you at 623-12 near Amu Darya border hill, but you must be sure there's no any Air Defense."
ผม - "Copy sir, I will handle it. .....สู้ ....." ผมหันไปเรียกไอ้สู้ที่กำลังนอนส่องกล้องตรวจดูความเรียบร้อยอยู่หลังต้นไม้
ไอ้สู้ - "ว่าไงมั่ง ???" 
เมื่อหลายชั่วโมงก่อนผมกับไอ้สู้และเจ้าหน้าที่อีกสิบห้านายนั่ง ฮ. Chinook ไปประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลางที่ค่ายทหาร
แห่งนึงในเติร์กเมนิสถาน ระหว่างบินกลับฐานพวกผมถูกซุ่มโจมตีจนเครื่องเสียการควบคุมตกตรงบริเวณชายแดนเติร์ก-อัฟกาทางตอนใต้ของแม่น้ำอามูดาย่า 
เจ้าหน้าที่หลายนายถูกยิงเสียชีวิตหลังจากพยายามหนีออกจากเครื่อง บางคนก็เสียชีวิตขณะหลบหนีเพราะผู้ก่อการร้ายส่งกองกำลังออกไล่ล่าพวกผมอย่างเต็มกำลัง
กว่าจะสลัดให้พวกมันหลุดก็กินเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง .....รู้ตัวอีกทีก็เหลือแค่ 5 คน 
ไอ้สู้ - "อีก 5 ไมล์ถึงจุดนัดของ Spectre .....อีก 1.7 ไมล์ถึงชายแดนอัฟกา .....เฮ้อออออ" ไอ้สู้นั่งพิงต้นไม้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบปืนขึ้นมาเช็ค
ผม - "5 ไมล์ ....ก็คงสัก 8 กิโลล่ะมั้ง ....สาระพัดกับดักที่มึงกับกูวางไว้คงช่วยต่อเวลาได้อีกพักใหญ่" ผมหันไปมองเพื่อนทหารชาวมะกันที่กำลังนั่งพักอย่าง
เหนื่อยหอบหลังจากวิ่งแทบไม่ได้หยุดพักมาเกือบ 2 ชั่วโมง ผมส่งน้ำให้ก่อนจะนั่งคุยด้วยอยู่เกือบ 10 นาที
ไอ้สู้ - "Break's over ....Time to go. ....น็อต" ไอ้สู้เรียกผมไปคุยเป็นการส่วนตัวเป็นภาษาไทยด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะส่งกล้องส่องทางไกลให้ผม
ไอ้สู้ - "กูเห็นไฟแว็บๆ หลังแนวป่านู่น .....มากันละ .....เยอะด้วยดิ" ไอ้สู้กลับหลังหันบอกให้คนอื่นรีบวิ่งทันทีที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ขนาดใหญ่เข้ามาใกล้
ผม - "T-72 !!! เหี้ยละ" ทันทีที่ผมหันหลังก้มลงจะหยิบกระเป๋าคาดเอวแนวป่าที่พวกผมพักกันอยู่ก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงและต่อเนื่องจนผมล้ม
ผม - "ทำไมเราไม่ได้ยินเสียงแม่งเลยวะ ???" ไอ้สู้กลับมาพยุงให้ผมลุกขึ้นแล้วส่งกระเป๋าคาดเอวให้
ไอ้สู้ - "ไม่รู้โว๊ยยยยย" ผมกับไอ้สู้วิ่งกันอย่างสุดชีวิตเพื่อออกจากแนวกระสุนของรถถัง T-72 ที่อยู่ห่างไปแค่ 100 กว่าเมตรรวมทั้งปืน ค. ที่ยิงมาอย่างหนัก
ผม - "Where's Bruke ???" ผมถามเพื่อนทหารชาวมะกันระหว่างวิ่งเลาะแนวป่าเพื่อออกสู่ที่โล่งแล้วหนีขึ้นเขาว่าเจ้าหน้าที่ S2 ( ฝ่ายข่าว ) หายไปไหน
Bruke - "Get in !!! Hurry !!!"
พวกผมตะลึงงงเป็นไก่ตาแตกที่ Bruke กลับมาพร้อมรถ HumVee เปิดประทุนติด M60 จอดรอตรงตีนเขา
ไอ้สู้ - "How did you get it ???" ไอ้สู้กระโดดขึ้นแล้วประจำที่ M60 ทันทีก่อนจะหันไปยิงตอบโต้ข้าศึกที่แห่กันเข้ามา
Bruke - "Women's Secret, you know ???"
ถึง Bruke จะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวแต่ผมก็เคยได้ยินแว่วๆ มาว่าเธอคือทหารรบพิเศษชั้นยอดคนนึงของ AFSOF 
( Air Force : Special Operation Force )
รถถัง T-72 ทั้ง 4 คันกระหน่ำยิงพวกผมจากด้านข้างในระยะประมาณ 100 m โชคดีที่เป็นเวลากลางคืนทำให้ยิงพลาด
โดนพวกเดียวกันเอง ข้าศึกเลยส่งรถ HumVee และกระบะออกตามพวกผมประมาณ 8-9 คัน .....แล้วการไล่ล่าด้วยรถก็เริ่มขึ้น
Mike - "I'm running dry !!! ......Damn it !!! .....Sorry man."
ช่างเครื่องประจำ ฮ. Chinook โดนยิงที่ไหล่จนล้มหน้าทิ่มไปกับคอนโซลรถ
ข้าศึกเริ่มใช้ RPG ยิงพวกผมบ่อยมากขึ้นทำให้รถเริ่มเสียการทรงตัวไถลไปมาบนถนนอย่างหวาดเสียว
Parker - "Turn left !!! Turn left !!!"
Mike - "No No !!! Turn right !!! Turn right !!!"
ผมได้ยินช่างเครื่องกับนักบินเถียงกันเรื่องทิศทางเลยหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ผมถึงกับตะลึงเมื่อเห็นสะพานไม้
ที่โดนข้าศึกยิงด้วย RPG กำลังโงนเงนพังแหล่มิพังแหล่อยู่ตรงหน้า แล้ว Bruke ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วหรือเลี้ยวไปทางอื่นแม้แต่น้อย
ผม - "Bruke ....Bruke !!! Stop !!!"
Bruke - "Shut up !!! .....Here we go !!!" Bruke
เร่งเครื่องเต็มที่แล้วซิ่งข้ามสะพานไม้อย่างรวดเร็ว ผมกับไอ้สู้เลยปาระเบิดใส่สะพานไม้นั่นจนพังครืน
ไอ้สู้ - "เยี่ยวแทบแตก .....กูเห็นหน้าพ่อหน้าแม่แว็บๆ เลยตะกี้" ไอ้สู้หันมามองหน้าผอมอย่างเหวอๆ จนผมขำ ( ขำไม่ค่อยออก >< )
ผม - "Don't ....do it again !!!"
Bruke - "Hahaha, Copy that !!!"
ผมยังจำภาพเหล่านั้นได้ติดตา ทั้งการซิ่งของ Bruke ที่ชนดะไม่ว่าจะรถหรือคนที่เข้ามาขว้างทาง หรือรถของข้าศึกที่ระเบิดอยู่ใกล้ๆ จนเห็นคนโดนย่างสด
และกระจายเป็นชิ้นๆ แบบต่อหน้าต่อตา รวมทั้งรถของข้าศึกที่โดน T-72 ยิงกันเองจนร่างของคนขับกระจายออกมาเกลื่อนพื้น .....สยอง ><
พอพวกผมมาถึงที่หมาย ( LZ ) บนเนินเขาอามูดาย่า ผมกับ Bruke ก็เข้าไปจัดการทหารประจำป้อมปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานที่อยู่บนเนินเขาทันที
ส่วนไอ้สู้และคนอื่นๆ กำลังตั้งแนวป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้ามาใกล้เนินขณะรอ ฮ.มารับ ตอนนั้นเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหมือนทุกอย่างจะหยุดอยู่ตรงนั้น
ผมได้เห็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ภาพของกระสุนปืนใหญ่จากรถถัง T-72 พุ่งผ่านหน้าผมไปประมาณ 2 m อย่างช้าๆ ถล่มป้อมไม้ห่างจากจุดที่ผมอยู่เกือบ 10 m
ทั้งรถถังทั้ง RPG และปืนกลสาระพัดขนาดโหมกระหน่ำขึ้นมาบนเนินอย่างต่อเนื่องจนพวกผมเริ่มต้านทานเอาไว้ไม่อยู่
ผมกับไอ้สู้เริ่มมองหาเครื่องทุ่นแรงที่สามารถทดแทนกระสุนของพวกผมที่กำลังจะหมดลงทันที
ไอ้สู้ - "โชคดีที่กูตั้งใจเรียนวิชาอาวุธหนักไม่เหมือนมึงที่เอาแต่หลับ" ไอ้สู้วิ่งไปเตรียมปืนใหญ่ M101 ให้พร้อมยิงส่วนผมคอยส่งกระสุนให้
ผม - "กูก็โชคดีที่มีมึงเป็นเพื่อน" ผมกับไอ้สู้ช่วยกันคนละไม้คนละมือจัดการข้าศึกในระยะกลางและระยะไกลไปมากมายจนกระสุนหมด
โชคร้ายที่ปืนใหญ่ M101 ยิงรถถัง T-72 ไม่โดน ( เพราะศูนย์เล็งมีปัญหา ) ทำให้พวกผมโดนรถถัง T-72 ยิงกดดันจนต้องสละปืนใหญ่ M101
โชคดีที่ผมหันไปเจอจรวดต่อต้านรถถัง SPG-9 อีก 2 กระบอกพร้อมกระสุนอีก 5-6 นัด ผมกับไอ้สู้เลยเอามันมาใช้ซะ 
Overlord - "Viper 1, this is overlord. Where's your position ???"
ผม - "We're on Amu Darya border hill !!! ....Where's CAB ???"
Spectre - "We're above you !!!"
กระสุนขนาด 40 mm ถูกยิงลงมาจากท้องฟ้าเห็นเป็นเส้นๆ ราวกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนข้าศึกแตกหือหนีไม่เป็นขบวน
ผม - "We have got some problem about T-72, .....Will you ???"
Spectre - "Don't worry, you are in my sight." AC-130 Spectre
มีปืนใหญ่ขนาด 105 mm ที่สามารถจัดการรถถังได้สบายๆ T-72 จึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ปัญหาต่อมาคือ ....ฮ. BH ไม่สามารถเข้ามาในน่านฟ้าของประเทศเติร์กเมนิสถานได้ ด้วยเหตุผลทางการเมือง,ทางการทหารหรืออะไรก็แล้วแต่ที่พอจะอ้างได้
ทำให้พวกผมต้องเปลี่ยนแผนกันยกใหญ่ ( ทีเครื่องบินจู่โจม AC-130 Spectre ยังเข้ามาได้แล้วทำไม ฮ. Black Hawk จะเข้ามาไม่ได้วะงง -*-a )
ในระหว่างที่ผมคุยกับ Overlord เพื่อเปลี่ยนแผนและการปฏิบัติสู่ที่หมายใหม่เครื่องบินจู่โจม AC-130 Spectre ก็บินวนยิงถล่มข้าศึกข้างล่างอย่างเมามันส์
....
เป็นภาพที่อลังการติด 1 ใน 5 ของปฏิบัติงานมาตลอดหลายปี
ผม - "Let's go !!!" พวกผมถอยกลับไปข้างกลับเนินแล้วขึ้นรถกระบะมุ่งหน้าสู่ที่หมายใหม่ ....แม่น้ำอามูดาย่า ( Parker เป็นคนขับ )
ข้าศึกส่งรถไล่ล่าจองล้างจองผลาญพวกผมอย่างไม่ลดละ โชคดีที่ Spectre ช่วยยิงคุ้มกันเอาไว้ได้ตลอดจนถึงแม่น้ำอามูดาย่าที่ที่เป็นจุดหมาย
Spectre - "Our fuel is running low, we will go back to base. .....Good Luck." Spectre
บินวนช่วยยิงคุ้มกันพวกผมอยู่นานจนเชื้อเพลิงหมดจึงต้องกลับฐาน
ไอ้สู้ - "จะหนีลงน้ำหรือไงวะ ?" ไอ้สู้วางกับดักด้วยการวางระเบิดไว้ที่ถังน้ำมันรถกระบะก่อนซ่อนตัวรอ ฮ. มารับ
ผม - "บกไม่รอดอากาศก็ลำบาก ....น้ำนี่แหละเวิร์ค" ไม่ถึง 5 นาทีข้าศึกก็มาถึงพร้อมกับ ฮ. MI-2 ติด M60 คอยกราดยิงพวกผมที่หลบอยู่หลังแนวป่าใกล้แม่น้ำ
ผม - "มันจะจองล้างจองผลาญอะไรกันนักหนาวะ ????" ผมกับไอ้สู้ช่วยกันยิงจนพลประจำ M60 ร่วงลงพื้น ส่วน ฮ. MI-2 ก็ต้องถอยห่างออกไป
Overlord - "Viper 1, this is overlord. Your LZ is hot, Osprey confirmed that. You must get out of there by the river now."
ผม - "How ???" พอผมฟังวิธีการก็หัวเราะออกมาอย่างลืมตัว พวกผมวิ่งไปทางแม่น้ำอามูดาย่าอย่างรวดเร็วก็เจอเครื่อง Osprey V-22 ลอยอยู่บนแม่น้ำ
ลูกเรือประจำเครื่องโบกมือเรียกพวกผมให้โดดลงน้ำพวกผมเลยโดดลงน้ำกันทันทีแล้วรีบว่ายตรงไปยัง V-22 ที่ห่างออกไปประมาณ 25 m
ไอ้สู้และคนอื่นๆ ว่ายอย่างรวดเร็วแต่ V-22 กลับสตาร์ทใบพัดแล้วค่อยๆ ลอยขึ้นจากผิวน้ำอย่างช้าๆ ผมจึงหยุดว่ายแล้วรีบคว้าเชือกสีดำที่พันด้วยเทปเรืองแสง
ผม - "Hook up !!!" ผมตะโกนบอกให้ทุกคนเอาตะขอที่โยงมาจาก V-22 เกี่ยวกับเข็มขัดของตัวเองทันทีแล้วส่งสัญญาณมือให้ลูกเรือคนนั้นว่าพร้อมแล้ว
พวกผมทั้ง 5 คนลอยขึ้นจากน้ำอย่างรวดเร็วสู่ท้องฟ้าที่มืดสนิท ปล่อยให้ข้าศึกถูกฝูงบิน A-10 ที่บินผ่านด้านล่างพวกผมถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง
2
วันต่อมา 
ผมทราบข่าวจากเพื่อนมะกันว่า Bruke เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ใน Qandahar, Afghanistan ศพของเธอถูกฝังอย่างสมเกียรติที่ฐานทัพอากาศแม็คดิลล์ รัฐฟลอริด้า
ส่วน Parker นักบินชาวผิวสีประจำ ฮ. Chinook ก็เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือทหารอังกฤษตรงชายแดน Zaranj, Afghanistan กับ Iran
*************************************************
BY :  XIII Post : 2010-05-02

No comments:

Post a Comment