Sunday, 16 January 2011

บทที่ 61 " ไดอารี่สีดำ "

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ......เพราะชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละคร
******************************************************
ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อนช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ........
วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2010 เวลาประมาณ 0435 pm ณ ห้องเก็บของหลังบ้านผม
??? - "
ว๊ายยยย !!!" เสียงของผู้หญิงคนนึงร้องลั่นห้องเก็บของผมเลยเดินเข้าไปดู
ผม - ".....เป็นไรป่าว ??? ไม่ระวังเล๊ยยยยย 555" ผมวางกล่องไม้ขนาดใหญ่แล้วพยุงให้เธอยืนขึ้นปัดหัวปัดตัวที่เลอะฝุ่นพลางหัวเราะ
??? - "
ไม่เป็นไรๆ ไอ้นี่มันหล่นใส่หัวแอร์น่ะเลยตกใจนิดหน่อย" ผู้หญิงคนนี้ชื่อ "แอร์" เป็นวิศวกรเครื่องบินทำงานที่การบินไทย
แอร์ - "สมุดไรเนี่ย ??? .....ทั้งหนักทั้งแข็ง .....น็อต .....มันต้องใช้กุญแจเปิดด้วยล่ะ" แอร์นั่งลงพักกินน้ำพลิกซ้ายพลิกขวาสำรวจสมุดสีดำแล้วเรียกผมให้มาดู
ผม - ".....ตรานี่คุ้นๆ แฮะ .....นึกออกละ" ผมรื้อกล่องไม้ขนาดใหญ่ที่เพิ่งยกออกมาเมื่อตะกี้เพื่อหากล่องขนาดเล็กที่มีตราแบบเดียวกันกับสมุดสีดำเล่มนั้น
ผม - "แอร์จะเปิดหรอ ? .....น็อตว่ามันไม่มีไรน่าสนใจหรอก" ผมส่งกุญแจที่ซ่อนอยู่ในกล่องขนาดเล็กเพื่อใช้เปิดสมุดสีดำให้แอร์
แอร์ - "เอาน่า ไหนๆ ก็เจอกุญแจแล้ว เปิดดูนิดดูหน่อยเจ้าของเค้าคงไม่ว่าหรอกน่า ......เจ๋ง !!! เปิดได้แล้ว .....นี่ๆ มาอ่านกัน"
แอร์นั่งลงข้างผมแล้วเริ่มอ่านไดอารี่ที่บันทึกไว้ในสมุดสีดำให้ผมฟังอย่างละเอียด
...........
................
.....................
วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักที่สุดในรอบสัปดาห์
ทหารคนที่ 1 - "นั่งเหม่อไรวะ ? ....นั่นแน่ๆ เขียนจดหมายหาใครหว่า ??? อย่าบอกน๊าาาา ....กำลังเขียนถึงคุณหมอคนสวยอยู่น่ะ 555" 
ทหารหนุ่มยศร้อยโทเดินเข้าไปหยอกล้อเพื่อนที่กำลังนั่งดูดบุหรี่แก้หนาวจากละอองฝนที่ตกลงมาอย่างหนักพลางเขียนจดหมายถึงคนรักที่อยู่ไกลแสนไกล
ทหารคนที่ 2 - "ยุ่งน่า กูกำลังเล่าให้เค้าฟังเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้า .....บุหรี่มะ ?" ต่างคนต่างนั่งดูดบุหรี่กันเงียบกริบไม่พูดไม่จากันอยู่นาน
ทหารคนที่ 1 - "กูว่า .....มึงควรจะลืมเรื่องนั้นได้แล้วว่ะไอ้ศร กูน่ะ ......"
ศร - "แสน ....มึงกับกูจะได้ขึ้นสวรรค์ป่าววะ ?" ศรเก็บจดหมายพับใส่กระเป๋าอย่างดีก่อนจะเอนตัวลงนอนบนแคร่หันไปมองสายฝนที่ไหลลงมาจากหลังคา
แสน - "สวรรค์หรอ ? กูคิดว่าไม่ว่ะ 555 .....ถ้านรกล่ะก็ไม่แน่ .....แล้วไอ้ธรรมล่ะ ?"
ศร - "รายนั้นสงสัยจะได้ขึ้นสวรรค์ว่ะ ....แม่งใจบุญอย่างกับพ่อพระ" ศรลุกขึ้นยืนดีดก้นบุหรี่ทิ้งแล้วหยิบปืน ปลย.11 ขึ้นมาสะพาย
แสน - "ควย !!! กูหมายถึงมันอยู่ไหนต่างหากล่ะ" แสนลุกขึ้นหยิบกระติกน้ำจากเอวขึ้นมากินแล้วส่งให้ศร
ศร - "คงอยู่ในเต็นท์ บก. ล่ะมั้ง .....เห็นว่าจะเข้าไปส่งรายงานน่ะ .....นี่น้ำหรือเยี่ยวมึงวะ ??? คลื่นไส้ชิบหาย"
แสน - "มึงรู้ได้ไงว่าเยี่ยวกู ??? มึงเคยแดกรึไงสาดดดดด 555" ทหารหนุ่มทั้ง 2 นายเดินกอดคอพูดจาหยอกล้อกันไปจนถึงเต็นท์ บก.
เมื่อศรและแสนไปถึงก็ได้ยินเสียงของผู้ชายคนนึงต่อว่าใครบางคนเสียงดังลั่นออกมานอกเต็นท์ท่ามกลางเสียงของสายฝนที่ปะทะกับผืนผ้าใบและสังกะสี
แสน - "หวัดดีป๋า ....เกิดไรขึ้นหรอ ?" แสนทำความเคารพทหารวัยกลางคนที่เดินออกมาจากเต็นท์ด้วยสีหน้าเซ็งๆ แล้วซักถามว่าเกิดไรขึ้น
ป๋า - "กูลาเซ็ง !!! หาเหล้าแดกกันดีกว่าไอ้แสน" ถึงคนผู้นี้จะมียศแค่ จ.ส.อ. แต่ทั้ง 2 คนก็ให้ความเคารพและความยำเกรงสูงกว่าผู้บังคับบัญชาบางคน
แสน - "เอ่อๆ ครับๆ .....กูไปก่อนนะศร เด๋วเจอกันตอนรวมพล" แล้วป๋ากับแสนก็เดินหายไปทางโรงเลี้ยงที่อยู่อีกฝากนึงของแคมป์
ศร - "เป็นไรป่าวธรรม ?" ศรเดินเข้าไปจับไหล่ให้กำลังใจเพื่อนที่เพิ่งโดนรองผู้พันด่าไปชุดใหญ่ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชา
ธรรม - "เฉยๆ ว่ะ มึงกับกูก็โดนกันอยู่บ่อยๆ นิ .....ชินว่ะ ....เนอะ ??? 555"
ศร - "กูเห็นมึงโดนคนเดียวตลอด .....คราวหน้าไม่ต้องออกรับแทนกูแล้วนะ"
??? - "
พวกมึงหัดฟังผู้บังคับบัญชามั่งดิวะ .....ทำตามใจกันอย่างนี้แล้วเมื่อไรจะได้เป็นใหญ่เป็นโตกับเค้าสักทีวะ ???"
ธรรม - "นั่นดิ ท่าทางกูกับไอ้ศรจะเกิดยาก ....ไม่เหมือนมึงนี่ไอ้เชียร .....เอาสีข้างถู ......." เชียรโมโหที่ธรรมว่าแดกว่าดันอยู่ประจำเลยจะเข้าไปต่อย
ศร - "โทษนะเชียร .....เด๋วมึงต้องไปตรวจพวกพลทหารมันนี่ .....ไปเถอะ เด๋วกูจัดการมันเอง" ศรเอามือปิดปากไม่ให้ธรรมพูดส่วนอีกมือดันตัวเชียรออก
เชียร - "เออ .....กูจะบอกไรให้นะศร .....ทหารอย่างเราน่ะ คำสั่งของผู้บังคับบัญชาคือสิ่งสำคัญที่ต้องยึดถือเหนือสิ่งอื่นใด .....ฝากบอกคู่หูมึงด้วยแล้วกัน"
ศร - "ขอบใจ .....เด๋วกูจะบอกมันให้" เชียรตะโกนเรียกลูกน้องนายสิบให้ออกมาจากเต็นท์แล้วทำโทษข้อหาปฏิบัติหน้าที่บกพร่องก่อนจะเดินหายไป
ธรรม - "มึงไปยอมมันทำไมวะ ? .....เหี้ย มันรุ่นเดียวกับเรานะเว้ย" พอศรปล่อยมือออกจากปากธรรม ธรรมก็บ่นแล้วแสดงอาการไม่พอใจใส่ศร
ศร - "แต่มันร้อยเอกแล้วนา"
ธรรม - "ถุย !!! แล้วไงวะ ? .....หรือมึงกลัวมัน ???"
ศร - "ป่าว กูแค่ ......"
แสน - "คิดถูกแฮะที่กลับมา ......วะ !!! เกือบได้ดูมวยสด เสียดายจัง 5555"
ศร - "ไหนมึงบอกว่าจะไปแดกเหล้ากับป๋าไง ???" แสนยืนพิงต้นไม้ถือขวดเหล้าดูดบุหรี่ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มจะซาลงไปบ้างแล้ว
แสน - "พอดีกูเปลี่ยนใจน่ะ 555 .....เหล้าเหี้ยนี่แรงดีว่ะ ....ลองมะ ?" แสนเดินมากอดคอธรรมแล้วส่งเหล้าให้
ธรรม - "เหล้าเหี้ยไรวะ ? ...........หือออออ แรงว่ะ .....ไม่เอาละ บาดคอชิบหาย .....มึงลองดิศร"
ศร - "นี่เหล้าหรือแอลกอฮอลล์วะเนี่ย ???? .....อ่อก" แสนหัวเราะชอบใจที่ 2 คนนั้นสำลักกับความแรงของเหล้าเถื่อนที่เพิ่งไปแฮปมาจากทหารประจำโรงเลี้ยง
ทั้ง 3 คนนั่งดวลเหล้าย้อมใจก่อนจะออกไปทำภารกิจสำคัญในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ครูแสน - "เรื่องของเรื่องคือพ่อมึงกับไอ้ธรรมดันลาดตระเวณลึกเกินไปเลยเข้าเขตข้าศึกแบบไม่รู้ตัว ....เกือบเอาชีวิตไม่รอด ....รู้สึกว่าไอ้ธรรมมันจงใจน่ะนะ"
ปัจจุบัน เวลาประมาณ 0945 pm ณ บ้านพักครูแสนใน กทม.
ผม - "แล้วไงต่อ ???" ครูแสนวางสมุดสีดำลงแล้วรินเหล้ากระดกจนหมดแก้วก่อนจะเอนตัวเงยหน้ามองเพดาน
ครูแสน - "พ่อมึงกับไอ้ธรรมพาลูกน้องหนีตายกลับมาได้หมดทุกคนพร้อมข้อมูลสำคัญของข้าศึกก็จริง แต่ .....ผู้บังคับบัญชากลับไม่มองจุดนั้นน่ะซิ"
ผม - "ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ"
ครูแสน - "ใช่ ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ .....เอ็งก็โดนอยู่บ่อยๆ นี่"
ผม - "เหอะๆ ก็โดนกันทุกคนน่ะแหละ"
ครูแสน - "เมื่อไอ้ธรรมรู้ตัวว่ามันโดนผู้บังคับบัญชาเพ่งเล็งเรื่องที่มันชอบฝ่าฝืนคำสั่งอยู่บ่อยๆ .....มันจึงไม่สนโลกไม่สนอะไร .....แล้วพ่อมึงก็ซวยไปด้วย"
.............................................
ธรรม - "เฮ๊ยยยยยยยย กูบอกว่ากูขอโทษ ......ไอ้ศร !!! เหี้ยเอ๊ยยยยยยย จะให้กูกราบตีนมึงมั้ยเนี่ย ???"
ศร - "ไม่ต้อง ....อยู่เฉยๆ แล้วก็เงียบๆ ด้วย" ศรขี้เกียจฟังธรรมที่กำลังอ้อนให้พูดด้วยจึงกลับไปนอนที่มุมห้องเหมือนเดิม
แสน - "ว๊าววววว ภาพนี้หายากนะเนี่ย !!! ทหารดีเด่น 3 ปีซ้อนถูกยัดกรง 55555 ......อะนี่ แดกซะ .....เด๋วจะหาว่ากูลืมเพื่อน"
ธรรม - "ไอ้แสนๆ ช่วยพูดกับไอ้ศรแม่งทีดิ กูไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาแบบนี้นี่หว่า ....แม่งไม่พูดกับกูมา 3 วันแล้วอ่ะ .....นะๆๆ"
แสน - "กูไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดอะไร ....กับใคร ....หรือเพื่อใคร ....กูแค่จะมาบอกว่า .....ผู้พันอนุมัติคำสั่งที่พวกเราร้องขอไปเมื่อ 3 วันก่อนแล้วนะ"
ศร - "จริงหรอแสน ??? .....จะเริ่มเมื่อไร ???" ศรลุกจากมุมห้องอย่างเร็วแล้วขยับตัวเข้าใกล้แสนเพื่อฟังรายละเอียดต่างๆ โดยมีลูกกรงกั้นกลาง
แสน - "พรุ่งนี้ตอนตี 5 .....หมวดกูจะเป็นแกนนำการบุกครั้งนี้"
ศร - "ไม่มีกูกับไอ้ธรรม .....ใช่มะ ?"
แสน - "ป๋าพยายามขอให้ลดโทษของพวกมึงเหลือกึ่งหนึ่ง ให้เอาออกมาใช้งานก่อนแล้วค่อยกลับไปอยู่ในกรงต่อ ....แต่รองแกไม่ยอม"
ธรรม - "กูว่าแล้ว .....แม่งกัดไม่เลิกจริงๆ เลยว่ะ"
แสน - "เมื่อไม่มีพวกมึงกูคงต้องระวังตัวมากกว่าเดิม .....ไปละ"
ศร - "แสน .....โชคดีเพื่อน"
.............................................
ครูแสน - "วันนั้นกูกับลูกน้องบุกโดยไม่มีพ่อมึงกับไอ้ธรรมที่คอยยิงคุ้มกันให้เหมือนอย่างทุกครั้ง .....ลูกน้องกูเลยตายไปมากกว่าครึ่ง ทุกคนบาดเจ็บ
ทั้งร่างกายและจิตใจไม่อยู่ในสภาพที่จะทำการรบต่อไปได้ กูจึงถอนกำลังกลับมาตั้งหลักเพื่อรอกำลังเสริม ......กูแค่ไม่อยากเห็นลูกน้องตายไปต่อหน้าต่อตา"
ผม - "ทำไมพ่อไม่เคยบอกผมว่าเคยเป็นสไนเปอร์ ?" ครูแสนลุกขึ้นหยิบรูปในกระเป๋าหนังสีน้ำตาลแล้วโยนให้ผมดู ....เป็นรูปในสมัยที่พ่อผมเรียนพลซุ่มยิง
ครูแสน - "ข้าศึกไล่ตามมาพร้อมกำลังรบที่มากกว่าและทรงพลังมากกว่าทุกครั้งที่พวกกูเคยเจอ .....ฐานที่มั่นถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง"
.............................................
ธรรม - "ไซเรน ??? .....ซ้อมกันอีกแล้วหรือวะ ? ห๊าวววววววว" ธรรมนอนบิดขี้เกียจหาวคุดคู้ดึงผ้าห่มจากศรไปห่มไว้คนเดียว
ศร - ".....ไม่ .....มึงฟังดีๆ ดิ" เสียงระเบิดดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในที่สุดเรือนไม้ที่สร้างขึ้นมาเพื่อขังทหารก็ระเบิดกระจุยหายไปถึงครึ่งหลัง
ธรรม - "เหี้ยแล้ว !!! .....ผู้คุมโว๊ยยยยย ขอกุญแจหน่อยโว๊ยยยยยยย" ผู้คุมไม่ฟังอะไรแล้วในตอนนั้นพอคว้าปืนได้ก็รีบวิ่งออกไปกันหมดเลย
ศร - "ให้มันได้งี้ซิ .....ธรรม ....เร็วเข้า .....ช่วยกัน" ศรและธรรมพยายามพังกรงเหล็กด้วยทุกสิ่งที่พอจะหาได้จากซากการระเบิด
ฐานที่มั่นถูกข้าศึกโจมตีด้วยอาวุธหนักอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวจนราบเป็นหน้ากลอง ข้าศึกเริ่มกระจายกำลังเข้ากวาดล้างทหารทุกคนแบบประชิดตัวจนเกิดการ
ตะลุมบอนกันขึ้น เสียงโฮ่ร้องของชายฉกรรณ์นับร้อยบวกกับเสียงปืนเสียงระเบิดและเสียงกรีดร้องของผู้ที่บาดเจ็บล้มตายดังไปทั่วทั้งเทือกเขา
??? - "
หมวดศร !!! หมวดศร !!! หมวดอยู่ไหนครับ ??? ......อาาาา ผมมาช่วยแล้วครับหมวด ....หลบไปทางนู๊นก่อนนะครับ"
ศร - "ขอบใจนะอ้วน .....ระวัง !!!" นายสิบคนสนิทของศรที่ชื่อ "อ้วน" ปะทะกับข้าศึกอีก 3 คนอย่างกล้าหาญก่อนจะช่วยศรและธรรมออกมาได้
ธรรม - "ขอบใจมากไอ้อ้วน !!! ได้เวลากูเอาคืนมั่งล่ะ" ธรรมรีบกระโจนออกจากกรงขังแล้วหยิบปืนของข้าศึกมายิงตอบโต้บ้าง
ศร - "แผลลึกเหมือนกันนี่ .....พักซะนะอ้วน" ศรเอาผ้าพันแผลของข้าศึกมากดบริเวณท้องของไอ้อ้วนที่ถูกฟันเป็นรอยยาว
ไอ้อ้วน - "ไม่เป็นไรครับหมวด เล็กน้อยครับ .....ผมยังสู้ไหว .....นี่ครับ ปืนของหมวด" ไอ้อ้วนส่งปืนคืนให้ศรผู้เป็นเจ้าของแล้วลุกขึ้นเตรียมลุยต่อ
ทั้ง 3 คนช่วยกันฝ่าวงล้อมของข้าศึกนับสิบที่พยายามจะตีโอบล้อมกรอบยิงพวกเค้าออกมาได้กันอย่างหวุดหวิดด้วยการช่วยเหลือของเพื่อนร่วมรุ่น
ศร - "ขอบใจมากเชียร ....แล้วผู้พันล่ะ ???" เชียรพร้อมกับลูกน้องอีก 7 คนช่วยกันตีวงล้อมคุ้มกันหลังแนวเรือนไม้ที่ทำเป็นสำนักงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง
เชียร - "ผู้พันกับพวกที่เหลือตั้งแนวป้องกันอยู่บนเนินนู่นแน่ะ .....ทั้งหมดนี่เป็นเพราะไอ้แสนคนเดียว แม่งเสือกหนีกลับมา ....ถุย !!! สวะไร้วินัย"
ธรรมต่อยหน้าเชียรอย่างแรงจนลงไปกองกับพื้น ทหารใต้บังคับบัญชาที่อยู่ตรงนั้นถึงกับอึ้งทำอะไรกันไม่ถูกได้แต่มองแล้วพยุงเชียรให้ลุกขึ้น
เชียร - "กูพูดผิดตรงไหนวะ ??? ห๊าาาาา !!! ก็แม่งไร้วินัยไม่ยอมฟังคำสั่งของรอง มันรั้นไปขอผู้พันให้อนุมัติคำสั่ง พอตัวเองพลาดก็หนีตายกลับมา 
ทั้งๆ ที่รองไม่ให้มันกลับมา .....แล้วเป็นไง ??? .....จะตายห่ากันหมดอยู่แล้วเนี่ย !!!" ธรรมเข้าไปกระชากคอเสื้อของเชียรแล้วตะคอกกลับอย่างรุนแรง
ธรรม - "เออ มึงไม่ผิด !!! มึงมันไม่เคยผิดเลยสักครั้ง !!! แต่นั่นเพื่อนนะเว้ย .....มึงรู้จักคำนี้มั้ยห๊ะไอ้สัด ???? เพื่อนน่ะ !!!" 
เชียร - "กูไม่มีเพื่อนไร้วินัยอย่างมัน ....กูไม่รู้จักคนขี้ขลาดที่หนีกลับมาอย่างมันหรอก" เชียรแกะมือธรรมออกอย่างเย็นชาทำให้ทหารทุกคนนิ่งไปกันหมด
ธรรม - "ทหารจะองอาจได้ก็ต่อเมื่ออยู่ภายใต้คำบังคับบัญชา .....แต่จะไร้ความองอาจเมื่ออยู่ภายใต้เท้าของผู้บังคับบัญชา .....จากนี้ไป ....มึงไม่ใช่เพื่อนกู"
ธรรมพูดน้ำตาคลอเดินชนไหล่เชียรไปหยิบปืนกล M60 จากพลทหารคนนึงแล้วเดินปาดน้ำตาออกไปจากกลุ่ม
เชียร - "เออ กูก็ไม่มีเพื่อนอย่างมึง !!! จะไปตายโหงตายห่าที่ไหนก็ไป !!! มึงไม่เข้าใจหรอก เพราะมึงมันไม่ใช่สายเลือดทหารอย่างกูกับไอ้ศร"
ศร - "ถึงมันจะไม่ได้เกิดมาในตระกูลทหารอย่างมึงหรืออย่างกู ....แต่มันก็สู้อย่างสมศักดิ์ศรีมาตลอด ไม่เหมือนใครบางคนที่เกิดมาในตระกูลทหารผู้สูงศักดิ์
แต่คอยประจบประแจงเจ้านายจนได้ดิบได้ดี .....เสียชาติเกิดจริงๆ"
ศรกวักมือเรียกพลทหารเพื่อขอกระสุนและระเบิดเพิ่มก่อนจะดึงสร้อยและแหวนรุ่นปาใส่กองไฟที่อยู่ใกล้เท้าเชียร
เชียร - "ศร .....มะ มึง .....มึงด่ากูหรอ ? ....มึงไม่เคยด่ากูเลยนะเว้ย ....ไหนสัญญากันแล้วไงว่าจะเป็นใหญ่เป็นโตด้วยกัน .....แล้วทำไมทำอย่างนี้วะ ????"
ศร - "ถ้ากูได้เป็นใหญ่เป็นโตเพราะเหยียบเพื่อนเหยียบลูกน้องหรือเหยียบคนอื่นขึ้นไปถึงจุดนั้นนะ ....กูขอตายตรงนี้ที่นี่เลยดีกว่า .....แม่งไร้ศักดิ์ศรีว่ะ"
เชียร - "ที่กูทำไปทั้งหมดก็เพื่อพวกมึงนะเว้ย !!! .....ถ้ากูได้เป็นใหญ่พวกมึงก็จะได้สบายกันทุกคน ......ทำไมไม่เข้าใจกันวะ ??? ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยย !!!"
เชียรฟูมฟายตะโกนเสียงดังก่อนจะทรุดตัวลงต่อยพื้นด้วยความโมโหที่เพื่อนรักตั้งแต่สมัยเด็กเดินหันหลังให้อย่างไร้เยื่อใย
.............................................
ครูแสน - "จากที่ไอ้ศรเล่าให้กูฟัง ไอ้เชียรแม่ง .....ร้องไห้ด้วยว่ะ 5555"
ผม - "จริงอ่ะ ??? 55555555 โอ๊ย ปวดท้อง 55555 .....ฮ่ะๆๆ หัวเราะจนน้ำตาไหลเลย 5555 .......แล้วครูล่ะ ไปอยู่ตรงไหนของสนามรบ ???"
ครูแสน - "กูกับทหารอีก 4 คนติดแหงกอยู่ในวงล้อมของข้าศึกขณะพยายามไปรวมพลกับทหารที่เหลือที่อยู่หลังแนวป่าฝั่งตรงข้าม .....ที่นั่นแหละที่เกิดเรื่อง"
ผม - "เกิดเรื่อง ???? .....เกิดไรขึ้นหรอครู ???" ครูแสนกระดกเหล้าจนหมดแก้วแล้วนั่งก้มหน้าอยู่นานก่อนจะเล่าต่อ
.............................................
??? - "
ผู้หมวดครับ พวกเราจะตายกันหมดใช่มั้ยครับ ????" พลทหารคงนึงก้มคองอเข่าหลบกระสุนและระเบิดหลังขอนไม้ตะโกนตะโกนถามอย่างหวาดกลัว
แสน - "รายงานยศชื่อมาซิพลทหาร" แสนวิ่งไปนั่งข้างพลทหารคนนั้นแล้วกอดคอเอาไว้แน่น
??? - "
ผม ....ผมพลทหาร ....นิวัฒน์ ....นามสกุล ....อาษานอก ครับ" แสนโผล่ออกไปยิงตอบโต้เป็นพักๆ ก่อนจะหันมาถามยศชื่อของพลทหารนิวัฒน์อีกรอบ
แสน - "ฟังนะพลทหารนิวัฒน์ อาษานอก .....มึงมีลูกมีครอบครัวยัง ??? ......ระเบิดดดดดดด !!!"
พลทหารนิวัฒน์ - "มีแล้วคร๊าบบบบบบบ" แสนตะโกนบอกให้ทุกคนหลบระเบิดแล้วดึงตัวพลทหารนิวัฒน์หลบชิดติดพื้นดินเพื่อหลบสะเก็ด
แสน - "มึงอยากกลับไปเจอหน้าลูกหน้าเมียมึงมั้ย ????" พลทหารนิวัฒน์พยักหน้างึกๆ อย่างหวาดกลัวเมื่อเห็นเพื่อนโดนระเบิดจนร่างกระจุยไปต่อหน้าต่อตา
แสน - "ดี !!! งั้นถือนี่แล้วใช้มันซะ แล้วเราจะได้กลับบ้านพร้อมๆ กัน" พลทหารนิวัฒน์ฮึดลุกขึ้นสู้อีกครั้งพร้อมกับนายสิบอีก 2 คนอย่างกล้าหาญจนจัดการ
ข้าศึกที่อยู่ในบริเวณนั้นไปมากกว่าครึ่ง แต่กำลังเสริมของข้าศึกกลับเข้ามาสมทบอีก ในขณะที่พวกเค้าเริ่มถอดใจ ....ทหารพวกเดียวกันก็ฝ่าวงล้อมเข้ามา
แสน - "มาช้าจังวะ ???? ......นึกว่าจะปล่อยให้กูตายห่าอยู่ที่นี่ซะแล้ว" ธรรมล้มตัวลงนอนข้างแสนแล้วส่งสัญญาณมือให้ลูกน้องที่ตามมากระจายกำลังกัน
ธรรม - "กูมาเร็วสุดแล้วเพื่อนเอ๊ยยยยย ......ว่ามาเลยจะเอาไงกับพวกมัน .....นี่ กูขนมาเพียบ" 
แสนวางแผนเตรียมการโต้กลับทันทีที่ธรรมมาถึงพร้อมกับกำลังเสริม 9 นาย, กระสุนและระเบิดอีกจำนวนมาก
??? - "
แผนยอดเยี่ยมมากเลยครับหมวดแสน ......รับรองพวกแม่งนึกไม่ถึงกันแน่" สิบเอกคนนึงเอ่ยขึ้นมาก่อนจะโดนยิงที่หัว
แสน - "ทุกคนหาที่กำบังด่วนนนนนนนนนนน" แสนตะโกนบอกลูกน้องที่เหลือให้หลบวิถีกระสุนที่พุ่งเจาะกระโหลกไปทีละคนทีละคนอย่างรวดเร็ว
ธรรม - "แม่งยิงมาจากไหนวะ ? ......เอ้า เยี่ยวราดแล้วมึง" ธรรมกลิ้งตัวออกห่างจากพลทหารนิวัฒน์ที่กำลังหวาดกลัวอย่างสุดขีดจนเยี่ยวแตก
แสน - "ไม่รู้ว่ะ รู้อย่างเดียว .....แม่งเก่งชิบหาย ....ไม่ถึง 3 วิ แม่งยิงหัวทะลุไป 4 คน" เสียงปืนดังขึ้น 1 นัดแล้วก็เงียบหายไปนานจนแสนและธรรมแปลกใจ
สักพักระเบิดควันจำนวนมากก็ถูกใช้กลางสมรภูมิรบตรงนั้น เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แสนส่งสัญญาณมือให้ทุกคนรู้ว่าการรบระยะประชิดกำลังจะเกิดขึ้น
พลทหารนิวัฒน์ได้ฟังเช่นนั้นก็ตื่นกลัวรีบเอาดาบปลายปืนมาติดที่ปลายกระบอกของ M16 แล้วสวดมนต์ภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 
ธรรม - "เสียงผิวปากนี่มัน ....." ธรรมกับแสนรู้ว่าเสียงผิวปากนี่หมายถึงอะไร แต่ทันทีที่เงามืดพุ่งผ่าม่านควันเข้าใกล้พลทหารนิวัฒน์ เค้าก็ไม่รอช้าที่จะพุ่งแทง
??? - "
โทษทีพลทหาร ....ไม่เป็นไรใช่มั้ย ?" เมื่อ 2 วินาทีที่แล้วชายคนนึงปัดดาบปลายปืนแล้วใช้มืออีกข้างกระแทกเข้าหน้าของพลทหารนิวัฒน์จนหงายหลัง
แสน - "เกือบตายห่าแล้วมั้ยล่ะไอ้ศร" แสนพยุงพลทหารนิวัฒน์ให้ลุกขึ้นแล้วส่งผ้าพันคอของตัวเองใช้สำหรับอุดเลือดกำเดาที่ไหลออกมาเป็นทาง
ศร - "กูจัดการพลซุ่มยิงและข้าศึกที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกไปหมดละ ที่เหลือก็แค่ .....ข้าศึกตรงเนินของผู้พัน"
ธรรม - "ตรงนั้นมีจุดซุ่มยิงเยอะ .....กูกับไอ้ศรจะจัดการจากด้านข้างเองส่วนมึงกับทหารที่เหลือกระนาบจากด้านหลังได้เลย"
แสน - "จัดให้ .....เอาล่ะ ใกล้จะได้กลับบ้านกันแล้วนะพลทหารนิวัฒน์ .....สู้ไม่สู้ ????"
พลทหารนิวัฒน์ - "สู้แค่ตายครับ !!!"
.............................................
ครูแสน - "ชั่ววินาทีที่กูเห็นรอยยิ้มของนิวัฒน์ .....มันก็ถูกยิงที่หัวจากระยะ 500 กว่าเมตร"
ผม - "พลซุ่มยิง ??? ......ดาบสองหรอ ???"
ครูแสน - "ใช่ ....พลซุ่มยิงคนที่สองอยู่ห่างจากคนแรก 100 กว่าเมตรคอยดัดความคิดของเราที่คิดว่าไม่เหลือพลซุ่มยิงแล้ว ......ตอนแรกพ่อมึงจะจัดการให้
แต่กูขอรับหน้าที่นี้เอง .....เพื่อเป็นการไถ่โทษแก่ลูกน้องที่ตายไป ......กูกับมันยิงแลกกันคนละนัด ในขณะที่กูกำลังจะหมดสติพระเอกขี่ม้าขาวก็ปรากฎตัว"
.............................................
เชียร - "อย่าเพิ่งตายนะไอ้แสน !!! ......เด๋วกูทำแผลให้"
แสน - "โอ๊ยยยยย มึง .....ไม่ได้อยู่กับผู้พันหรอ ????"
เชียร - "ถ้ากูอยู่มึงได้ไปสวรรค์แน่" เชียรรีบลากแสนเข้าที่กำบังแล้วปฐมพยาบาลให้ก่อนจะคว้าปืนไรเฟิลของแสนไปล้มตัวลงนอนข้างพุ่มไม้
แสน - "ยิงเป็นหรือวะ ? ....กูไม่เห็นมึงยิงไรเฟิลนานละ"
เชียร - "หุบปากไอ้สัด !!! ถึงกูจะยิงไม่เก่งเท่ามึงหรือไอ้ศร .....อย่างน้อยก็เก่งกว่าไอ้ธรรมแหละวะ .....รายงานสถานการณ์ดิ๊"
แสน - "ตัวเมียถือ AK-47 ติดกล้องเล็งอยู่ห่างออกไปประมาณ 400 เมตรทาง 11 น. โดนยิงเหนือนมข้างขวาคาดว่ายังไม่ตาย ....น่าเสียดาย นมแม่งใหญ่ชิบหาย"
เชียร - "เสียดายก็ตายตามมันไปซิ ......ตายซะอีนมโต" พอเชียรพูดจบก็ลั่นไกใส่หัวของเป้าหมายทันที
.............................................
ครูแสน - "ไม่รู้อะไรดลใจให้ไอ้เชียรวกกลับมาช่วยกู ....ทั้งๆ ที่ตอนนั้นมันกับกูหรือไอ้ธรรมไม่ค่อยจะลงรอยกัน ยกเว้นพ่อมึงที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย"
ผม - "ก็ดีแล้วนี่ ไม่งั้นได้กลายเป็นผีเฝ้าเขาค้อแน่ 5555" ครูแสนเดินยิ้มมารัดคอผมแล้วเขกหัวผมแรงๆ ทีนึง ><
ครูแสน - "แด่ผู้ที่จากไปในเช้าวันนั้น" ครูแสนรินเหล้าเต็มแก้วแล้วกระดกจนหมด
ผม - "แด่ผู้ที่จากไป"
.............................................
การปะทะบนเนินสุดท้ายกินเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ......ชัยชนะไม่ได้ตกอยู่กับพวกข้าศึก ศพของข้าศึกนอนเรียงรายระเกะระกะปะปนกับทหารพวกเดียวกัน 
บางศพก็แยกไม่ออกว่าใครเป็นใครหรือฝ่ายไหนยากต่อการระบุ ....เพราะถ้าไม่โดนไฟเผาจนเกรียมดำปี๋ก็กระจัดกระจายเต็มพื้นเพราะแรงระเบิด
แสน - "ผู้พัน .....ผมขอโทษ ผมยินดีชดใช้ความผิดด้วยชีวิตครับ" แสนขึ้นลำกล้องปืนพกแล้วจ่อหัวตัวเองทำให้ทหารทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจรีบห้ามกันใหญ่
ผู้พัน - "ไม่เป็นไรแสน .....เอ็งทำหน้าที่ของเอ็งอย่างสุดความสามารถแล้ว .....เราควบคุมตัวแปรทั้งหมดไม่ได้หรอก ......แค่กๆ"
??? - "
อย่าเพิ่งพูดเลยครับผู้พัน เด๋วแผลท่านจะ....." เสนารักษ์คนนึงรีบเข้าไปดูอาการของผู้พันที่ถูกยิงตรงหน้าอกถึง 2 นัด แต่ผู้พันยกมือห้ามไม่ให้เข้ามา
ผู้พัน - "ทุกคนทำหน้าที่ได้ดี ....สมแล้ว ....ที่เป็นลูกน้องกู .....สมแล้ว ที่เป็นทหาร .....ไทย" ทันทีที่ผู้พันสิ้นลมหายใจทุกคนก็ร่ำไห้ให้กับการจากไปของท่าน
รองผู้พัน - "ไอ้แสน !!! มึงต้องชดใช้ !!! มึงต้องรับโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น !!! มึงต้องขึ้นศาลทหาร !!!" ถึงรองผู้พันจะตบหน้าแสนไปหลายทีแต่แสนก็ไม่ตอบโต้
เชียร - "รองครับ เอาอย่างนี้ซิครับ ......ให้แสนกับทหารอีก 1 ชุดไปล่าหัว ...( ชื่อ )... และพรรคพวกที่เหลือเพื่อลบล้างความผิด .....รองเห็นว่าอย่างไรครับ ???"
ธรรม - "ผมไปเองครับรอง ....สภาพร่างกายของแสนตอนนี้ไม่พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ครับ .....ผมขออาสาทำหน้าที่แทนมันครับ"
รองผู้พัน - "พวกมึงต้องไปตามล่าไอ้หัวโจกมาให้กูก่อนเย็นนี้ ไม่งั้นอนาคตมึงดับแน่" รองผู้พันโยนเอกสารใส่หน้าแสนอย่างแรง
ศร - "ผมขออาสาไปกับธรรมครับ" ศรเปิดดูซองเอกสารเหล่านั้นแล้วออกปากขอไปกับธรรมทันที
รองผู้พัน - "ไอ้ศร ...... ดี !!! ไปกันให้หมดจะได้ตายโหงตายห่ากันไปให้หมดสักที กูละเบื่อไอ้พวกนอกคอกไร้วินัยชิบหาย"
เชียร - "รองครับผมว่า รองควรพิจารณา ......เอ่อ ผมหมายถึงให้แสนมันหายดีก่อนน่ะครับ"
รองผู้พัน - "มึงไม่ต้องมายุ่งไอ้เชียร มึงอยากช่วยเพื่อนมึงใช่มั้ย ??? .....หรือมึงอยากไปกับพวกมัน ???"
เชียร - "ครับ ผมจะไป"
ศร - "เชียร มึงไม่ต้องไป .....มึงอยู่ที่นี่ .....เชื่อกู"
เชียร - "กูจะไป"
ศร - "เชื่อกู .....ขอร้องล่ะ" 
ขณะที่ศรและธรรมกับลูกน้องคนสนิทของศรอีก 1 คนที่ชื่อ "อ้วน" กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์การรบเชียรก็เดินเข้ามา
ศร - "กูอยากให้มึงจับตาดูรองเอาไว้ ....มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล"
ธรรม - "มึงดูนี่ ....แล้วดูนี่ ...." ธรรมส่งเอกสาร 2-3 แผ่นให้เชียรลองเปรียบเทียบดูก็พบสิ่งผิดปกติ
เชียร - "ไม่จริงน่า !!!"
ศร - "กูยังไม่แน่ใจ แค่สงสัย .....ในระหว่างนี้ มึงต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้พวกกูด้วย"
ธรรม - "กูรู้ว่ามึงน่ะอยู่ข้างรอง คิดว่ารองถูกมาตลอด ส่วนพวกกูน่ะเป็นฝ่ายผิดหยันเต .....แต่ครั้งนี้ขอให้มึงเชื่อใจพวกกูสักครั้ง ....ในฐานะเพื่อน"
ศร - "เอ้อ อีกอย่าง แสนมันคงไปกับพวกกูไม่ไหวแน่ๆ เพราะงั้น ......" แสนเดินเข้ามาอย่างมาดมั่นแล้วตะโกนเสียงดังลั่น
แสน - "ใครบอกกูไม่ไหว ???? ....แค่ถากๆ เว้ย !!!!" แสนถลกเสื้อเปิดแผลที่ถูกยิงที่เอวให้ดูพลางหัวเราะแล้วหันไปหยิบของเตรียมออกรบ
.............................................
ครูแสน - "ตอนนั้นกูเผลอไปนิดเดียว .....ไม่พ่อมึงก็ไอ้ธรรมน่ะแหละที่ซัดท้ายทอยจนกูสลบคาโต๊ะ ......คิดแล้วยังแค้นไม่หายเลยว่ะ"
ผม - "เหอะๆ ไม่รู้น่ะดีแล้ว" จากที่ผมอ่านไดอารี่สีดำเล่มนั้นผมรู้ว่าใครเป็นคนซัดครูแสนจนสลบ ....แต่ผมไม่บอกแกหรอก หุๆ
ครูแสน - "พอกูตื่นขึ้นมา ไอ้เชียรก็นั่งร้องไห้ต่อหน้ากูแล้วส่งปืนให้ ......มันพูดว่าไงรู้มะ ?"
ผม - "พูดว่า ????"
.............................................
แสน - "มึงว่าไงนะ ???? กูฟังไม่ค่อยถนัด"
เชียร - "ช่วยยิงรองที .....หลังจากนั้นก็ยิงกูด้วย" เชียรส่งปืนให้แสนทั้งน้ำตาแล้วยิ้มอย่างหดหู่
แสน - "เหี้ยไรมึงเนี่ย !!!"
เชียร - "ไอ้ธรรมตายแล้ว !!! กูเป็นคนบอกให้มันไปตาย !!! ยิงกูซิแสน ....กูบอกให้ยิงกูไง !!! .....กูมันเลว กูส่งเพื่อนไปตาย ....กูบอกให้ยิงกู !!!"
แสน - "ไอ้ธรรม .....ตาย ....แล้วหรอ ??? .....แล้วไอ้ศรล่ะ ? ......ไอ้ศรอยู่ไหน ????" แสนลุกขึ้นกระชากร่างของเชียรติดกำแพงตะคอกถามหาเพื่อนซี้อีกคน
เชียร - "ไอ้ศร ....บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้คงอยู่บน ฮ. ระหว่างทางไปโรงบาลแล้วล่ะ"
แสน - "รองอยู่ไหน ??? .....มันอยู่ไหน ???" เชียรส่งที่อยู่ของรองผู้พันให้แสนทั้งน้ำตาก่อนจะจับมือของแสนที่กำปืนแน่นแล้วจ่อหัวตัวเอง
เสียงปืน 1 นัดดังออกมาจากเต็นท์ที่แสนกับเชียรอยู่ทำให้ทหารทุกคนรีบมาดู
.............................................
ผม - "ผมไม่เคยสังเกตุเหมือนกันว่าขมับของผู้พันเชียรจะมีแผลเป็นรอยยาวๆ"
ครูแสน - "ลองไปดูดิ ขมับขวานะ จะเป็นรอยลางๆ ....ดูดีๆ รับรองเจอแน่"
ผม - "แล้วเค้าจะให้ผมดูหรอ ? พูดเป็นเล่น .....พอเจอหน้าผมก็ด่าตะเพิดแล้วอ่ะ .....ใครจะอยู่ดูล่ะ เหอะๆ ......อะไรที่ทำให้ครูเปลี่ยนใจไม่ยิงผู้พันเชียรหรอ ?"
ครูแสน - "ตอนที่พ่อมึงพากูไปทำแผลที่เสนารักษ์ พ่อมึงบอกกูว่า ......ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอให้เชื่อใจไอ้เชียร เพราะยังไงเราก็เพื่อนกัน"
ผม - "แล้วลุงธรรมตายยังไงหรอครู ???"
ครูแสน - "เรื่องนี้มึงต้องไปถามพ่อมึง ......เอ้า มาพอดี 555" พ่อผมเปิดประตูห้องรับแขกเข้ามาพร้อมพี่ท็อป ( ทหารคนสนิทของพ่อ ) แล้วเดินเอาเสื้อไปวาง
ผม - "งั้นผมกลับก่อนดีกว่า" ผมลุกขึ้นหยิบเสื้อกับกุญแจรถจะกลับบ้านแต่ครูแสนเข้ามารัดคอลากผมไปนั่งกับโซฟาต่อ ><
ครูแสน - "อยู่ก่อนไอ้เด็กดื้อ !!! ...ศร ลูกมึงมีเรื่องจะถามแน่ะ" พ่อหันมามองหน้าผมนิ่งๆ แล้วเดินมาหยิบสมุดไดอารี่สีดำที่วางอยู่กลางโต๊ะแล้วมองหน้าผม
ผม - "แอร์เจอน่ะ ....ในห้องเก็บของ .....นี่ๆ อย่าทำหน้าอย่างนั้นเด่ะ ผมพูดจริงๆ นะ"
พ่อ - "อย่าร้อนตัวซิ"
ผม - "ไม่ร้อนตัวได้ไงก็พ่อเล่นตีหน้านิ่งอย่างนั้นอ่ะ เหอะๆ"
พ่อ - "เอาเถอะ .....ว่าแต่จะถามอะไรล่ะ ?" พ่อโยนสมุดไดอารี่สีดำเล่มนั้นลงโต๊ะแล้วรินเหล้ากระดกอึกๆ
ผม - "เอ่อ ......ลืมไปละ ....ผมกลับก่อนนะพ่อ กลับก่อนนะครู .....หวัดดีคร๊าบบบบพี่ท็อป" ผมสะบัดแขนครูแสนที่ล็อคคอผมออกแล้วลุกขึ้นเตรียมกลับบ้าน
พี่ท็อป - "เอ้อๆ หวัดดีๆ .....จะให้ล็อคตัวมันไว้มั้ยครับผู้พัน ???"
ผม - "เฮ๊ย !!! ได้ยินนะเฟ๊ยไอ้พี่ท็อป !!!" ผมเหลียวหลังกลับมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินพี่ท็อปพูดกับพ่อ
พ่อ - "ก็ดีเหมือนกัน .....อยากจะมานั่งฟังเองหรือจะให้ท็อปไปลากคอมานั่ง ???" พี่ท็อปวางมือถือแล้วเดินหักนิ้วดังกร๊อบๆ เข้าหาผม
ผม - "อย่านะ ผมสู้นะ เหอะๆ ......โอเคๆ นั่งก็ได้ !!!!" ในที่สุดผมก็ยอมนั่ง ....ดีกว่าเปลืองแรงกับพี่ท็อปโดยใช่เหตุ -*-a ( เรื่องของเรื่องสู้แกไม่ได้อ่ะ T_T )
พ่อ - "เลือกได้ดี .....จะถามอะไรล่ะ ?"
ผม - "เอ่ออออ .....ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดีแฮะ" ผมกลัวว่าพ่อจะไม่พอใจกับคำถามหรือถามอะไรแทงใจดำเกินไปเลยลังเลอยู่นาน
ครูแสน - "มันอยากรู้ว่าไอ้ธรรมตายยังไงน่ะ"
ผม - "น่านนนนน ขอบคุณครับครู .....รู้ใจจริงๆ ......อยากจะร้องไห้อ่ะพี่ท็อป" ผมหันไปซบไหล่พี่ท็อปลุ้นกับอารมณ์และคำพูดของพ่อที่กำลังจะออกมา
พ่อ - "ตายในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างกล้าหาญ .....ตายแทนเพื่อนที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ....เป็นการตายอย่างเต็มใจ"
พ่อพูดออกมาด้วยสีหน้านิ่งๆ ก่อนจะชนแก้วกับครูแสนแล้วยกซดจนหมด พ่อกับครูแสนคุยเรื่องงานกันอยู่นานก่อนจะกลับ
ครูแสน - "ไม่กลับพร้อมพ่อมึงล่ะ ??? หรือจะนอนนี่ ??? หรือจะไปนอนไหน ??? ....อ๊ะๆ ไอ้ข่าวว่าเมีย เอ๊ย แฟนกลับมาจากออสเตรเลียแล้วนี่นา 5555"
ผม - "ยุ่งน่า .....ว่าแต่ลุงธรรมเค้าตายยังไงหรอครู ??? .....ไม่เอาอย่างที่พ่อบอกนะ ผมรู้ว่ามันต้องมีไรมากกว่านั้นแน่ๆ .....ชัวว์  !!! ฟันธง"
ครูแสน - "พ่อมึงเค้าอยากให้ทุกคนคิดอย่างนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ตายน่ะ"
.............................................
ธรรม - "มึงว่าไอ้เชียรจะยิงรองลงป่าววะ ? เห็นเค้าประคบประหงมกันอย่างกับไข่ในหิน"
ศร - "ไม่รู้ซิ .....ถ้าเป็นไอ้แสนล่ะก็ไม่แน่ว่ะ"
ไอ้อ้วน - "เห็นด้วยเลยครับหมวดศร ถ้าเป็นหมวดแสนล่ะก็ .....รองเละแน่ หึๆ"
ธรรม - "ถ้ามันไม่ยิงตอนนี้กูว่ารองมีหวังเปิดไปไหนต่อไหนแน่ๆ"
ศร - "ใช่ .....เราก็ได้แต่เชื่อใจไอ้เชียรมันเท่านั้นแหละ .....อ้วน ขาเป็นไงมั่ง ??? โดนอีกแล้วเด่ะ ที่ท้องก็โดนที่แขนก็โดน .....ที่ขาก็ยังโดน ....ไหวมั้ยนั่น ???"
ธรรม - "มึงไม่ต้องไปถามมันหรอก กูเห็นโดนนู่นโดนนี่แต่แม่งก็ยังไปไล่ฟันเค้าได้ 5555"
ไอ้อ้วน - "แหะๆ หมวดธรรมก็พูดเกินไปครับ ผมแค่ไม่อยากให้หมวดศรเป็นไรไปก็เท่านั้นเองครับ"
ธรรม - "ทำเป็นพูดดีปายยยยยย 5555"
ศร - "ฤทธิ์เดชเยอะจริงๆ ลูกน้องกู"
ไอ้อ้วน - "ผมนึกชื่อลูกผมออกแล้วครับหมวด !!!"
ธรรม - "มึงมีเมียแล้วหรอ ?"
ไอ้อ้วน - "ยังครับแค่ตั้งเอาไว้ก่อนน่ะ ......คนแรกชื่อ ฤทธิไกร คนที่สองชื่อ ........"
ศร - "เดชนุกูลเป็นไง ....เพราะดี"
ไอ้อ้วน - ".....เดชนุกูลหรอ ???? ขอบคุณครับหมวด ผมขอชื่อนี้เลยนะ 555"
ธรรม - "เดชนุกูล !!!! แปลว่าไรวะ ??? ทุเรศดีแท้ 555 .....แล้วคนที่สามล่ะ ?"
ไอ้อ้วน - "คนที่สามให้แม่มันตั้งมั่งครับ เด๋วมันจะงอนผมซะ 555"
ศร - "เมียยังไม่มีอายุก็เท่านี้เสือกคิดชื่อลูกซะละ"
ธรรม - "มึงก็ควรจะคิดได้แล้วนะ เพราะชีวิตมึงกับกูถ้าไม่คิดตอนนี้แล้วจะไปคิดตอนไหนวะ ??? 5555"
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจนแก้วหูแทบทะลุ แรงอัดจากระเบิดทำให้ร่างของศรและไอ้อ้วนปลิวไปไกลเกือบ 5 เมตร
ศร - "ธรรมมมมมมมมมมมมมม !!!" พอศรได้สติก็ลุกขึ้นตะโกนแหกปากเสียงดังเรียกหาเพื่อนอีกคนที่คาดว่าจะอยู่ในกลุ่มควันของระเบิด
ไอ้อ้วน - "อย่าเข้าไปครับหมวด !!! อย่าครับ !!! หมวดธรรมเค้าตายแล้ว !!! ถอยก่อนครับ !!! ตรงนั้นมีแต่กับระเบิด !!!" 
ภาพสุดท้ายที่ศรเห็นธรรมก็คือ ธรรมเดินถอยหลังยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขก่อนที่ภาพเหล่านั้นจะหายไปเพียงเสี้ยววินาทีพร้อมระเบิด
พอฝุ่นเริ่มจางศรตกใจสุดขีดตะโกนแหกปากดังลั่นพยายามวิ่งเข้าไปหาร่างของธรรมที่เหลือเพียงแค่ร่างครึ่งบนแต่ถูกได้อ้วนดึงตัวเอาไว้ทั้งน้ำตา
ศรเริ่มหมดแรง ....สติของเค้าเริ่มเลือนลางจนทรุดลงกับพื้น ไอ้อ้วนเริ่มแปลกใจจึงหันมองที่หัวหน้าของเค้า .....หน้าอกของศรเต็มไปด้วยแผลและเลือด
ไอ้อ้วน - "หมวดศร ??? ......หมวดศรรรรรรรรรรรรรร !!!"
.............................................
ผม - "ไอ้แจ๊คมันเคยบอกผมว่ากับระเบิดในยุคนั้นยังเหลืออยู่อีกเยอะแยะ"
ครูแสน - "ใช่ .....รู้มั้ยทำไมพ่อมึงกับไอ้อ้วนถึงไปเพชรบูรณ์กันบ่อยๆ"
ผม - "เก็บกู้ระเบิดที่หลงเหลือจากยุคนั้นหรอ ?"
ครูแสน - "อืม .....ไอ้ศรมันฝังใจกับเรื่องนั้นมากเลยไล่เก็บกับระเบิดที่เหลือในเขาค้อมาตลอดหลายปี"
ผม - "ครู .....พ่ออยากให้ทุกคนคิดว่าลุงธรรมตายอย่างกล้าหาญไม่ใช่เดินเอ้อละเหยไปเหยียบกับระเบิดจนตาย ....ถึงไม่เคยเล่าให้ใครฟังใช่มะ ?"
ครูแสน - "ใช่" ผมกับครูแสนนิ่งเงียบอยู่นานต่างคนต่างนอนแหงนหน้ามองท้องฟ้าบนเก้าอี้ตรงหน้าบ้านพักของครูแสน
ผม - "แล้วใครเป็นคนยิงรองผู้พันปัญญาอ่อนนั่น ??? .....ครูหรือผู้พันเชียร ???"
.............................................
ชายร่างท้วมคนนึงวิ่งอย่างสุดชีวิตในป่าแห่งนึงทางอีสานตอนเหนือ เค้าหวังว่าจะรอดพ้นจากความตายที่กำลังมาเยือนเมื่อข้ามแนวป่านี้ไปยังหมู่บ้านแห่งนึง
กระสุนขนาด 7.62 mm พุ่งทะลุขาซ้ายของชายร่างท้วมจนล้มลงกับพื้น ไม่ถึง 5 นาทีชายหนุ่ม 2 คนในชุดพรางสีเขียวที่มิดชิดก็วิ่งมาถึงจุดที่ชายร่างท้วมอยู่
รองผู้พัน - "ไอ้เหี้ย !!! อย่าเข้ามา .....อย่าเข้ามา .....ไม่งั้นกูยิงนะ"
บุรุษชุดพรางคนที่ 1 - "สงสัยกูต้องยิงแขนมันอีกข้างซะแล้วว่ะ"
รองผู้พัน - "ไอ้แสน .....ไอ้แสนหรอ ? ไอ้สัด !!! อย่าเข้ามานะมึง !!!" รองยิงสวนออกมาหลายนัดแต่พวกเค้าหลบได้ เมื่อกระสุนหมดเค้าก็เริ่มหนีตะเกียกตะกาย
บุรุษชุดพรางคนที่ 1 - "จะรีบไปไหนล่ะครับรอง ??? ไม่อยู่ตบหน้าผมก่อนหรอ ?" รองตกใจสุดขีดจนหน้าซีดเมื่อมือปืนคนนั้นถอดโม่งออก
รองผู้พัน - "พวกมึงคิดจะทรยศต่อผู้บังคับบัญชาของตัวเองหรอ ? โทษหนักนะพวกมึง !!!"
แสน- "แล้วที่มึงทรยศกับชาติบ้านเมืองต่อกองทัพและพวกพ้องล่ะ ??? โทษของมึงคืออะไร ???" แสนพูดด้วยความโมโหแล้วยิงเข้าไหล่ของรองผู้พัน
รองผู้พัน - "มึง .....ไอ้แสน !!! ไอ้ชาติชั่ว !!! โอ๊ยยยยยยย" บุรุษชุดพรางคนที่ 2 เดินเข้าหาชายร่างท้วมที่กำลังนอนดิ้นทุรนทุรายแล้วถอดโม่งออก
??? - "
แสน .....อย่าทรมานรองเลยว่ะ เพราะยังไง ....ครั้งนึงเค้าก็เป็นผู้บังคับบัญชาเราน่ะเว้ย" บุรุษชุดพรางคนที่ 2 พยุงร่างของรองผู้พันให้ลุกนั่ง
รองผู้พัน - "เชียร ??? .....ไอ้เชียรช่วยกูด้วย ไอ้แสนมันจะฆ่ากู ....ยิงแม่งเลยเชียร !!! ยิงแม่งเลย !!! มึงอยากได้ไรเด๋วกูจัดให้ ....ลาปยศเงินทอง ...เด๋วกูหาให้ !!!"
เชียร - "รองลืมไปแล้วหรือครับว่าผมมากับไอ้แสนมัน ???" เชียรสะบัดมือของรองผู้พันออกแล้วเดินไปยืนคู่กับแสน
แสน - "กูว่าแม่งเป็นเอามากว่ะ ....หมดทางเยียวยาแล้วล่ะ" แสนขึ้นลำกล้องไรเฟิลแล้วหันไปหาเชียรที่กำลังยืนมองรองผู้พันบ่นพล่ามด้วยความกลัว
เชียร - "อืม ....จัดการเลยดีกว่า ....กูเองก็เริ่มเซ็งๆ ละ" เชียรปาดน้ำตาที่ไหลออกมาก่อนจะชักปืนพกขนาด 11 มม. ออกมาเล็งรองผู้พัน
รองผู้พัน - "ไอ้เชียร .....เสียดายที่กูรักและไว้ใจมึงเหมือนลูกในไส้ สุดท้ายมึงมันก็เลี้ยงไม่เชื่อง .....เหมือนหมาขี้เรื้อนตัวนึง 5555555" 
ชายร่างท้วมนั่งหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกันอย่างกับคนบ้าเสียสติเมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทที่ตัวเองรักและไว้ใจทรยศในวินาทีสุดท้ายก่อนจะตาย
เชียรลั่นกระสุนออกไปทั้งน้ำตาแต่แสนปัดมือเชียรจนพลาดเป้าไปโดนต้นขา ชายร่างท้วมนอนร้องเสียงดังดิ้นทุรนทุรายอีกครั้ง
แสนดึงปืนพก .44 แมกนั่มออกมาแล้วยิงกระหน่ำใส่หัวและร่างของรองผู้พันจนหมดแมกกาซีน .....ชายร่างท้วมนอนตายจมกองเลือดในที่สุด
.............................................
ครูแสน - "รู้มั้ยทำไมกูถึงไม่ให้ไอ้เชียรมันยิงรอง ???"
ผม - "ทำไมล่ะ ?"
ครูแสน - "กูบอกมันว่ากูขออยู่ในเงามืดคอยปิดทองหลังพระให้มันเอง ส่วนมันก็อยู่ในด้านสว่างคอยปิดทองหน้าพระต่อไป ....ฟังดูดิเนาะ 5555"
ผม - "ผมไม่แน่ใจว่าผู้พันเชียรแกจะปิดทองเป็นหรือป่าวนะ 5555 ....ไม่ว่าจะหน้าพระหรือหลังพระก็เถอะ 5555"
ครูแสน - "กูจะบอกไอ้เชียรว่ามึงด่ามัน 555"
ผม - "เหอะๆ คนเรา ....ทรยศว่ะ .....ผมฟังนิทานหลอกเด็กจนเบื่อล่ะ ....ผมกลับบ้านก่อนแล้วกัน .....ง่วงชิบหายเลย ห๊าวววว" ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจไหว้ครูแสน 
ครูแสน - "มานี่ ....แดกให้หมดแล้วค่อยไป 555" ครูแสนรินเหล้าให้ผมจนเต็มแก้วแล้วบังคับให้ผมกินจนหมดถึงจะให้กลับบ้าน ><
วันเดียวกันเวลาประมาณ 1150 pm ณ อู่ซ่อมรถแห่งนึงใน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
??? - "
ไปเที่ยวไหนมาล่ะ ? กลับซะดึกเลย" ชายร่างใหญ่ดูลงพุงสมกับชื่อของตัวเอง "อ้วน" เดินถือข้าวกล่องจาก 7-11 มานั่งกินที่โต๊ะพร้อมพวกช่างคนอื่นๆ
ผม - "ไม่อยากจะเชื่อว่าแต่ก่อนน้าอ้วนจะเป็นหนุ่มรูปหล่อหุ่นผอมเพรียวลู่ลมอย่างกับนายแบบ 5555"
น้าอ้วน - "อ๊ะ ไอ้นี่ !!! ดูถูกกันนี่หว่า ....โน๊ตนิ๊กจัดการ !!!" น้าอ้วนส่งสัญญาณมือให้ไอ้โน๊ตและเจ้านิ๊กเข้ามารุมผม
ไอ้โน๊ต - "ไม่เอาอ่ะป๊า ผมยังไม่อยากตาย" ไอ้โน๊ตนอนดูหนังอยู่ที่โต๊ะยาวบอกไม่สนใจ
ผม - "คิดถูกแล้วเดชนุกูล ชีวิตนายยังอีกยาวไกล หุๆ"
ไอ้โน๊ต - "มันแน่อยู่แล้วววววว  .....นิ๊ก ....ลุย !!!" เจ้านิ๊กล็อคคอผมจากด้านหลังแล้วไอ้โน๊ตก็เข้ามาต่อยแขนผมหลายหมัดก่อนจะแยกย้ายกันวิ่งหนี
เช้าวันต่อมา
หลังจากผมกับพ่อไปวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้ากันเสร็จก็ใส่บาตรพร้อมกันที่หน้าหมู่บ้าน ( แม่บังคับให้ใส่พร้อมกันน่ะ >< )
ผม - "ทำไมพ่อไม่เคยบอกผมว่าเคยเป็นพลซุ่มยิงมาก่อน ????" ผมหันไปถามพ่อหลังจากวางขันข้าวสำหรับใส่บาตรบนโต๊ะตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน
พ่อ - "ก็ไม่เคยถามนิ" พ่อโยนไดอารี่สีดำลงกองไฟแล้วกรวดน้ำอุทิศผลบุญให้เหล่าทหารที่เสียชีวิตในวันนั้นใต้ต้นไม้ต้นใหญ่
ผม - "น่าเสียดาย .....อุส่าห์ช่วยกันเขียนแท้ๆ"
พ่อ - "มันก็แค่สมุดเล่มนึงที่ทุกคนช่วยกันเขียนขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ เดิมทีไอ้เชียรมันกะให้ทุกคนเขียนเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของคนอื่นเพื่อปรับปรุงแก้ไข"
ผม - "ผิดคาด ....ผมนึกว่าสมุดเล่มนั้นเป็นของพ่อไม่ก็ของลุงธรรม"
พ่อ - "ของไอ้เชียรต่างหากล่ะ .....พอเขียนไปเขียนมาก็เริ่มติด กลายเป็นไดอารี่ที่ทุกคนต้องเขียนกันให้ได้ซะงั้น .....ไม่รู้ติดใจไรกันนักหนา ไร้สาระจริงๆ"
ผม - "เหอะๆ เท่าที่อ่านพ่อน่ะแหละที่เขียนเยอะกว่าใครเพื่อนเลยนี่ .....แล้วทำไมสมุดเล่มนั้นถึงมาอยู่กับพ่อล่ะ ?"
พ่อ - "อยากรู้ก็ไปถามไอ้เชียรเองซิ"
ผม - "ไม่อ่ะ ผมยังไม่อยากเจ็บตัว" พ่อหัวเราะชอบใจแล้วกอดคอผม
แม่เรียกผมกับพ่อให้เข้าไปอาบน้ำเตรียมกินข้าวก่อนจะเรียกไอ้โน๊ตและเจ้านิ๊กที่กำลังเล่นกันอยู่บนระเบียงชั้น 2 ของบ้านมันให้มากินข้าวที่บ้านผม
วันนั้นทั้งวันผมกับพ่อและแม่ ( รวมทั้งไอ้โน๊ตและเจ้านิ๊กด้วย ) ช่วยกันจัดสวนในบ้านกันอย่างสนุกสนานก่อนจะออกไปกินข้าวนอกบ้านด้วยกัน
ตลอดทั้งวันของวันเสาร์ที่ 6 ก.พ. 2010 นั้น ผมมีความสุขมาก ......ที่ได้เห็นรอยยิ้มของพ่อ
*************************************************
   
ถึงเพชรนิลจินดา .....มีค่ายิ่ง
ใส่ให้ลิงก็เป็นลิง .....ไม่ทิ้งเผ่า
ให้ลาปยศเสริมคน .....จนมัวเมา
ก็เข้าเค้าเหมือนอย่างลิง .....ไม่ทิ้งรอย ( แต่งโดยทหารผู้เสียสละนามว่า "ธรรม" )
.......................................
โอ๊ยยยยยยยยยย ทำไมหน๊ออออออ ???? เพลงนี้ถึงแว็บเข้ามาในหัวผมทันทีที่พิมพ์เรื่องนี้จบ -*-a
"
ราตรีสวัสดิ์ ( Good Night  ) - ฟักกลิ้ง ฮีโร่ feat. ธีร์ ไชยเดช"
BY :  XIII Post : 2010-02-07

No comments:

Post a Comment