Wednesday, 12 January 2011

บทที่ 34 " Father & Son "

ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อนช่วงปลายเดือนกันยายน 2009 .......
2
วันหลังจากงานที่ด่านชุมพล จ.ตราด เวลาประมาณ 0115 pm ณ วัดแห่งนึงใน จ.ขอนแก่น
ผม - "สงสัยกูนี่ท่าทางจะบาปหนาว่ะ ....กูพาคนไปตายอีกแล้ว เหมือนที่เคยพามึงและคนอื่นๆ ไปตาย ....ทุกคนคงจะรอให้กูไปหาในนรกแล้วซินะ"
ผมวางดอกไม้ลงบนพานหน้ากำแพงอัฐิของลูกน้องคนสนิทคนนึง ชื่อ "นัท" ที่ตายต่อหน้าต่อตาผมในภารกิจเมื่อหลายปีก่อน
ผม - "แย่หน่อยนะที่กูคงไปให้มึงต่อยหน้าไม่ได้ ....เพราะถ้ากูตายไปกูคงไม่ได้อยู่ในนรกชั้นเดียวกับมึงแน่ๆ กูคงอยู่ชั้นล่างๆ นู่นเลยล่ะ 555"
ผม - "ไอ้ซันมันบอกกูว่ามันฝันเห็นมึงมานั่งตีหน้ามึนที่หน้ากรมบ่นอยากกลับเข้าไปนอนในโรงนอน ...หึ เด๋วคนอื่นก็กรี๊ดลั่นโรงนอนกันพอดี"
ผมยืนนึกถึงความสนุกสนานในโรงนอนพลทหารตอนที่ผมเข้าสิบเวรคุมพวกมันในคืนวันเสาร์ที่เปิดหนังผีดูกันจนสว่างคาตาแล้วก็ไปวิ่งกันต่อในตอนเช้า
ทำให้ผมนึกถึงหน้าของลูกน้องทั้ง 14 คนที่ตายไประหว่างปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ....จนน้ำตาไหล ก้มหน้ายอมรับความจริงว่าพวกมันตายแล้ว
ผม - " ....อือ ว่าไง ? ....หรอ ....กูอยู่ขอนแก่นน่ะ เด่วก็กลับแล้วล่ะ" นิโอ๊ะโทรมาบอกว่าไอ้สู้ออกจากห้อง ICU แล้ว
ครูแสน - "เสร็จธุระแล้วหรอ ?" ผมเดินกลับมาที่รถครูแสนก็ส่งเบียร์ให้กระป๋องนึง ผมรับและเปิดยกกระดกทีเดียวหมดกระป๋อง 
ครูแสน - "ไอ้สู้ออกจากห้อง ICU แล้วใช่มะ ? ....โชคดีของมันที่รอดตายแต่โชคร้ายกว่าที่ต้องเจอเรื่องร้ายๆ ต่ออีกเยอะ ....แขนมึงเป็นไงมั่ง ?"
แขนขวาท่อนล่างและซี่โครงของผมร้าวเพราะโดน Victor เล่นงาน ส่วนไอ้สู้โดนมันแทงจนหัวใจหยุดเต้นไปแล้วรอบนึง ...โชคดีที่กำลังเสริมมาช่วยไว้ทัน
ผม - "ผมแพ้มันอีกแล้ว ....แพ้แบบราบคาบเลยล่ะ พาคนอื่นไปตายอีกตั้งหลายคน แถมไอ้สู้ยัง .....ผม ....." ผมเอามือปิดหน้าจะร้องไห้พิงกระจกประตูรถ
ครูแสน - "ทั้งเอ็งและไอ้สู้รอดกลับมากันได้ก็ดีแล้วนี่ จะร้องไห้ไปทำไม ? ....หึ๊ ? ไอ้เด็กโง่" ครูแสนเอามือลูบหัวผมเหมือนอย่างเคยๆ จนผมปล่อยโฮในที่สุด
เวลาต่อมาที่โรงพยาบาลในค่ายทหารแห่งนึง
ผม,นิโอ๊ะและไอ้เล็กรวมทั้งครูแสนและผู้พันเชียรต่างนั่งเฝ้าไอ้สู้อยู่ในห้องอย่างไม่ละสายตาเพื่อรอมันฟื้น
ไอ้สู้ - "ตื่นขึ้นมาก็เจอผู้พันเชียรเลยแฮะ ....สงสัยยังอยู่ในฝันร้ายแหงๆ เลย" ไอ้สู้พูดประโยคเด็ดหลังจากที่หลับไปนานร่วม 2 วัน
ผู้พันเชียร - "ลูกศิษย์มึงตื่นขึ้นมาก็ปากดีเลยนะไอ้แสน ถ้ามันไม่เป็นไรแล้วกูขอตัวกลับก่อนแล้วกัน เด๋วอดกระทืบคนเจ็บไม่ได้" 
ไอ้สู้ - "ไอ้หน้าเหลี่ยม ....ร้องไห้ทำป้ามึงหรอไง ? กูยังไม่ตายนะไอ้ห่า" อยู่ดีๆ ผมก็ร้องไห้ออกมาทันทีที่ไอ้สู้ตื่นขึ้นมา ผมรีบเช็ดน้ำตาออกเพราะกลัวเสียฟอร์ม
ไอ้สู้ - "บังโว๊ย !!! เอาไอ้ขี้แงไปไกลๆ กูที เด๋วขี้มูกมันร่วงมาโดนแผลกู" นิโอ๊ะหัวเราะเดินเอากระเช้าผลไม้มาวางไว้ที่หัวเตียง
นิโอ๊ะ - "นี่ของคนเฝ้านะ ไม่ใช่ของคนป่วยเพราะงั้นมึงห้ามแดก" นิโอ๊ะแกะองุ่นแดงกินต่อหน้าต่อตาไอ้สู้ที่นอนมองตาปริบๆ
ไอ้สู้ - "เออๆ กูไม่แดกก็ได้วะ เด๋วหมาบางตัวมันจะบ่นว่าหิวๆๆ ที่ไม่มีไรกินตอนกลางคืน" ไอ้สู้กำหมัดต่อยไหล่ซ้ายผมทีนึงเบาๆ ก่อนจะหันไปคุยกับไอ้เล็ก
ไอ้สู้ - "ไม่มีเหล้าหรือวะ ? กูอยากแดกเหล้าชิบหายเลยว่ะไอ้เล็ก"
ไอ้เล็ก - "ให้หายก่อนเถอะมึง ขืนแดกไปตอนนี้มีหวังไส้ไหลแน่" ไอ้สู้หัวเราะจนเจ็บท้องมองหน้าครูแสนที่นั่งนิ่งตีสีหน้าเคร่งเครียดจนพวกผมสยองสุดๆ -*-
ไอ้สู้ - ".....ทำสีหน้าไร้เมตตาต่อมนุษย์โลกอีกแล้วนะครู" 
ครูแสน - ".....กำลังคิดอยู่ว่าทำไมมันไม่ฆ่าพวกมึงสักทีน่ะซิ ทั้งๆ ที่มีโอกาสตั้งหลายครั้งละ" ผมกับไอ้สู้มองหน้ากันไม่พูดอะไรได้แต่นิ่งเงียบ
และแล้วผมก็ตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ครูแสนฟังตอนไปฝึกที่ Fort Benning รวมทั้งเรื่องที่ไปฝึกตามชายแดนแมกซิโกทำให้รู้จักกับทหารคนนึงชื่อ "Paul"
นิโอ๊ะ - "เฮ๊ย ...Paul มันตายไปตั้งนานแล้วนี่ ???"
ผม - "ในรายงานเค้าจำหน่ายว่า MIA ( Missing In Action ) นะ ไม่ได้จำหน่ายว่า KIA ( Kill In Action ) ....แต่คราวนี้ KIA ของจริง"
ไอ้เล็ก - "ปุจฉา ....Victor and Paul ...มัน 2 ตัวคือใคร ?" ไอ้เล็กเดินไปหยิบแอปเปิ้ลมานั่งแทะที่ปลายเตียงไอ้สู้
ผม - "ครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียนตอนไปฝึกที่ Fort Benning น่ะ ....Victor มันไม่ใช่ครูฝึกที่ Fort Benning อย่างเดียวหรอกนะ แต่มันยังอยู่ Delta Force อีกด้วย"
ไอ้เล็ก - "Delta Force ??? ....เยี่ยม งานช้างล่ะทีนี้"
ครูแสน - ".....พวกมึงรักษาสุขภาพเตรียมความพร้อมของร่างกายให้ดีๆ กันด้วยล่ะ ทำงานก็เซฟๆ กันหน่อยอย่าเพิ่งให้อะไรบุบสลาย"
นิโอ๊ะ - "หมายความว่าไงครับครู ???"
ครูแสน - "ได้เวลาที่พวกมึงจะออกไปเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในโลกกว้างแล้วล่ะ" ครูแสนเดินมาหยิบแอปเปิ้ลไปแทะกินดีดหูไอ้สู้ไป 1 ทีก่อนจะเดินออกไป
ผม - "ได้ยินเหมือนกูมั้ยไอ้สู้ ....นิโอ๊ะ ??? ....อย่าบอกนะว่า ....."
ไอ้สู้ - "คำพูดนี้เหมือนเคยได้ยินตอนโดนส่งไปฝึกที่ Fort Benning เลยแฮะ"
นิโอ๊ะ - "ไม่ทันได้เตรียมใจเหมือนคราวที่แล้วเลยแฮะ ....ว่าแต่คราวนี้ที่ไหนอีกล่ะ ?"
ไอ้เล็ก - "ไอ้ที่พูดๆ กันนี่หมายถึงไปฝึกที่ต่างประเทศใช่มะ ? น่าสนุกแฮะ" ทั้งผม,ไอ้สู้และนิโอ๊ะต่างพูดพร้อมๆ กันอย่างไม่ได้นัดหมายว่า "นรกชัดๆ" ><
เวลาต่อมา ณ โรงพยาบาลในค่ายทหารแห่งเดิม
นิโอ๊ะปลุกให้ผมลุกไปกินข้าวเย็นก่อนแล้วค่อยมานั่งเฝ้าไอ้สู้มันต่อ ผมนั่งกินข้าวไปคิดถึงเรื่องที่จะต้องไปฝึกที่ต่างประเทศอีกครั้ง .....ทำให้คิดถึงคนที่อยู่ที่นี่
ผมโทรศัพท์หาเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และบรรดาลูกน้องที่พอจะติดต่อได้ ถามถึงสาระทุกข์สุขดิบไปต่างๆ นาๆ ว่าเป็นยังไงกันมั่ง ( โทรไปทวงหนี้น่ะ 555 )
เหลือแค่คนเดียวที่ผมยังไม่โทร ....หลวงพี่ทัก ผมลังเลอยู่นานเกือบชั่วโมงว่าโทรไปแล้วจะคุยเรื่องไรดี ? จะบอกดีมั้ยว่าจะไปไหน ? หรือมันจะอะไรยังไง ?
แต่แล้วผมก็ต้องตกใจกับเสียงมือถือที่ดังขึ้นเป็นเพลง Far Away - Nickelback ท่อนฮุคที่เป็นเสียง Ring Tone ของเพลงนี้ทำเอาผมหัวใจเต้นแรงทำไรไม่ถูก
ผม - "หวัดดีหลวงพี่ เป็นไงมั่งสบายดีป่าว ? ท่องคาถาชินบัญชรได้ยัง ?"
หลวงพี่ทัก - "ได้แล้วๆ เอาไว้อาตมาจะท่องให้โยมฟังทีหลังนะ ....อาตมาฝันเห็นโยมตายติดต่อกันมา 2-3 คืนละ ....บอกซิว่ายังสบายดีอยู่ครบ 32"
ผม - "......อะแน่นอน อย่างผมใครจะมาทำไรได้ 555" ผมอึ้งไป 2 วิก่อนจะหัวเราะมองแขนขวาของตัวเองที่เข้าเฝือกจนน้ำตาคลอเบ้า
หลวงพี่ทักนิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะถอนหายใจแล้วท่องคาถาชินบัญชรและอีกหลายคาถาผ่านโทรศัพท์ให้ผมฟังจนแบตเกือบหมด
หลวงพี่ทัก - "ก่อนอาตมาจะไปทำวัดเย็น อาตมาขอบอกไรโยมอย่างนึงนะ .....เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ....แค่นี้แหละ" แล้วหลวงพี่ทักก็วางสายไป
ผม - "....เวรย่อมระงับด้วยการฆ่าไอ้ตัวเริ่มเวรต่างหากล่ะหลวงพี่" หลังจากนั้น 1 วันไอ้สู้ก็ถูกย้ายมาอยู่โรงพยาบาลของทหารชื่อดังใน กทม. เพื่อพักรักษาตัว
เลยเป็นโอกาสอันดีงามที่ผมจะทำกิจกรรมหลายๆ อย่างร่วมกับบรรดาน้องๆ ทั้งหลายเพื่อเป็นการส่งท้ายก่อนผมจะไปฝึกพิเศษในระยะยาวที่ต่างประเทศ
ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ....เพราะงั้นผมจึงเหลือเวลาอีกแค่ 1 เดือนเท่านั้นที่จะอยู่ประเทศไทย ( ต้องรีบเช็คเรตติ้งกับกิ๊กทุกคนละ 555 )
เวลาประมาณ 0715 am ณ บ้านผมใน จ.นนทบุรี
พ่อ - "ได้ข่าวว่าจะโดนไอ้แสนเอาไปทรมานที่ โรงเรียนรบพิเศษ John F. Kenedy หรอ ?" พ่อผมใส่ชุดอ่อนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ก่อนจะออกไปทำงาน
ผม - " .....ใช่ สงสัยครูแสนคงอยากให้เป็นแบบแรมโบ้ พวก Green Berets อะไรประมาณนั้น" ผมวางกระเป๋าลงแล้วนั่งที่โต๊ะรับแขกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับพ่อ
พ่อ - " ....แขนขวาเป็นไงมั่ง ? อีกแค่เดือนเดียว ....คงหายทันใช่มั้ย ? ไหนจะไอ้สู้อีก" พ่อถามผมอย่างห่วงใยในรอบหลายปีที่ท่านไม่เคยเอ่ยปากออกมา
ผม - "...ทันซิ ต้องทัน ....ยังไงก็ต้องหายทันอยู่แล้วล่ะ" พี่ท็อปเดินเข้ามาเห็นผมกับพ่อนั่งคุยกันอยู่พอดี พี่ท็อปจะโยกหลบหันหลังกลับแต่ไม่ทันซะแล้ว
พ่อ - "สายละ ไปทำงานก่อนนะ รีบหายไวๆ ล่ะ .....พ่อเป็นห่วงลูกมากนะ มากที่สุดเท่าที่คนเป็นพ่อคนนึงจะห่วงลูกชายของเค้าได้" ผมหัวเราะหึพ่อเลยหันมา 
พ่อ - "สักวันลูกจะเข้าใจว่าการเสียสละในทุกๆ เรื่องและทุกๆ สิ่งๆ หรือแม้แต่ชีวิตตัวเอง ...เพื่อปกป้องคนที่เรารักหรือเพื่อคนหมู่มากมันมีค่ามากแค่ไหน"
ผม - "เพราะงั้นพ่อถึงไม่เคยปริปากถามผมสักคำว่าผมเป็นยังไงมั่งใช่มั้ย ? พ่อไม่คิดมั่งหรอว่าผมต้องการ ....พ่อมากกว่าประเทศชาติซะด้วยซ้ำ" ผมตะคอกใส่ 
พ่อ - "เรื่องแค่นี้พ่อคิดว่าลูกทนได้อยู่แล้วล่ะ เพราะลูกเป็นผู้ชายที่เกิดมาในตระกูลนักรบนี่นา เรื่องแค่นี้พ่อรู้ว่าลูกทำได้ ....พ่อเชื่ออย่างนั้นมาตลอด"
พ่อเดินเข้ามากอดผมแน่นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี พี่ท็อปเดินหลบไปรอพ่อที่รถ พลฯ ประจำบ้านก็หลบไปหลังบ้านกันหมดเหลือแค่ผมกับพ่อ
ผม - ".....ครับ" ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจนเกือบจะร้องไห้ออกมาให้ได้ เพราะตั้งแต่ผมเป็นทหารทำงานเสี่ยงตายแบบนี้มาก็ไม่เคยได้ยินคำๆ นั้น
หลุดออกมาจากปากพ่ออีกเลยจนถึงวันนี้ ผมคิดมาเสมอว่าพ่อไม่เคยรักไม่เคยใส่ใจไม่เคยเป็นห่วงด้วยซ้ำไป พ่อหยิบยื่นข้อเสนอให้ผมใส่เครื่องแบบ
ตามธรรมเนียมของคนตระกูลนี้ที่สืบทอดกันมานาน ทำให้ผมเจอเรื่องราวที่ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมสูญเสียคนที่รักไปมากมาย
ต้องร้องไห้สามวันสามคืนจนไม่มีน้ำตาก็เคยมาแล้ว แต่พ่อก็ไม่เคยมาใยดีหรือแม้กระทั่งพูดหรือถามว่าผมสบายดีหรือป่าว ? วันนี้เหนื่อยมั้ย ? งานเป็นไงมั่ง ?
เจอหน้าก็ได้แต่พูดๆๆ เรื่องงานๆๆ หรือแม้แต่กับแม่ ที่บางทีแม่ต้องแอบร้องไห้คนเดียวด้วยซ้ำที่พ่อเป็นอย่างนี้ แต่วันนี้แค่คำพูดแค่ไม่กี่ประโยคกลับทำให้ผม
รู้สึกดีและหักล้างในสิ่งที่พ่อทำกับผมและแม่ไปจนหมด ผมเพิ่งจะเข้าใจว่าพ่อต้องเสียสละมากแค่ไหนเพื่อคนอื่น ....และเพื่อประเทศชาติ
******************
BY :  XIII Post : 2009-09-27

No comments:

Post a Comment