Sunday, 9 January 2011

บทที่ 30 " Master Your Own "

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนช่วงกลางเดือนตุลาคม 2005 .....
เวลาประมาณ 0748 am ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 5577 ฟุต ( ประมาณ 1.5 km ) ณ เทือกเขาแห่งหนึ่งในชายแดนอเมริกา - แคนาดา
ไอ้แจ๊ค - "อ๊ากกกกกกก หนาวโว๊ยยยยยย !!! หนาวจนปวดหูเลยสัดเอ๊ย"
ไอ้สู้ - "กูรู้ว่ามันต้องหนาวแน่ ....แต่ ....ไม่นึกว่า .....มันจะหนาวขนาดนี้เลยว่ะ"
ผม - "นั่นดิ ....บรื๋ออออ สู้จ๋า ขอกอดแก้หนาวที .....นิโอ๊ะ ....มึงไม่หนาวหรือวะ ?"
นิโอ๊ะ - "หนาวดิ ....มากๆ เลยด้วย จนกู ....ขยับไม่ได้แล้วเนี่ย" อ้าว ผมก็นึกว่ามันไม่หนาวเห็นยืนนิ่งๆ 5555
??? - "Listen everybody !!! Your ORP is up there. You will climb up 200 m high for breakfast. All right ... Move Move !!!"
ไอ้แจ๊ค - "กูได้ยินแว่วๆ ว่า 200 เมตรใช่มะ ? ....อยากร้องไห้เป็นภาษาสเปน" ไอ้แจ๊คเดินไปนั่งพิงหน้าผาน้ำแข็งแบบหมดอาลัยตายอยาก
ผม - "เหอะๆ ขอให้ได้บ่น ..... 200 เมตรหรอ ....1 ....2 ....มีจุดพักแค่ 3 จุด ...ทางซ้ายท่าทางจะปีนง่ายว่ะสู้ ....อืมมมม มึงขึ้นนำไปก่อนเลยเด๋วกูตามไป ><"
ไอ้สู้ - "ไม่ล่ะ กูขอแก้หนาวแปป" ไอ้สู้หยิบบุหรี่ออกมานั่งดูดหน้าตาเฉยที่โขดหิน
นิโอ๊ะ - "เฮ๊ยๆ คนอื่นเริ่มปีนขึ้นไปกันหมดแล้วนะ จะไม่กินข้าวกันหรือไง ?" นิโอ๊ะเช็คอุปกรณ์แล้วเดินออกห่างจากกลุ่มพวกผม
ไอ้แจ๊ค - "ดูนี่ๆ ....กูกลายเป็นตุ๊กตาหิมะไปละ แบร่ !!!" ไอ้แจ๊คโดนหิมะร่วงลงมาใส่จากการปีนหน้าผาน้ำแข็งของคนอื่นจนหิมะกลบหน้าตาไปหมด 5555
พวกผม 4 คนโดนผู้พันเชียรมัดมือมัดเท้าให้ลงชื่อการฝึกพิเศษที่ Fort Benning ประเทศสหรัฐอเมริกา นี่ก็ร่วม 2 เดือนเข้าไปแล้วที่พวกผม 4 คนมาอยู่กันที่นี่
พวกผมได้เรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับวิชาทหารของพวกรบพิเศษในหลายๆ แขนงของต่างประเทศที่ประเทศไทยไม่มี อย่างเช่น ....ตะลุยหิมะ T_T
นิโอ๊ะ - "....กูหิวแล้วว่ะ" นิโอ๊ะวิ่งกระโดดเอาตะขอปักหน้าผาน้ำแข็งที่อยู่สูงเกือบ 2 เมตร แล้วดึงตัวขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างระมัดระวัง
ผม - "หวังว่าน้ำแข็งคงจะไม่เปราะเกินไปนะ" ผมพูดเสร็จก็วิ่งกระโดดเหยียบโขดหินพุ่งตัวเกาะหน้าผาปีนตามนิโอ๊ะขึ้นไปและคนอื่นๆ ก็ตามมา
ผม - "และนั่นก็คือประสบการณ์ที่ผมไปฝึกปีนหน้าผาน้ำแข็งที่ชายแดนแคนาดาเมื่อ 4 ปีก่อน ในหลักสูตร Advance Reconnaissance Patrol ของ Fort Bening"
ปัจจุบัน เวลาประมาณ 1155 am ณ โรงเรียนนายเรือ จังหวัดชลบุรี
ผมยืนเล่าประสบการณ์ของตัวเองตอนฝึกที่ Fort Bening ที่หน้าชั้นเรียนของนักเรียนนายเรือ ชั้นปีที่ 3 ในฐานะวิทยากร ( ที่ไม่ได้ ) รับเชิญพิเศษ >< 
พี่เอ - "เอาล่ะ นิทานจบแล้ว ไปพักได้ ....เอ้อ อย่าลืมรายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้กันด้วยนะ ใครส่งช้าหรือไม่ส่งเด๋วรู้กัน ไปได้"
พวกนักเรียนในชั้นลุกขึ้นยืนทำความเคารพผมกับพี่เอกันแข็งขันเสียงดังและพร้อมเพรียงก่อนจะเดินชักแถวกันออกไปพักกลางวัน
พี่เอ - "ทำไมไม่เล่าตอนที่ข้ามไปแมกซิโกด้วยล่ะ ? นั่นน่ะไฮไลท์ของเรื่องเลยนะ" พี่เอยืนเก็บของอยู่ที่โต๊ะบ่นพึมพำๆ
ผม - "ขี้เกียจ ...เล่าไปเด๋วพวกมันก็หาว่าไอ้นี่แม่งสุยสุดๆ ไม่เล่าดีกว่า" ผมยืนดูเอกสารบางอย่างที่ชั้นหนังสือในห้องเกี่ยวกับเรือดำน้ำในสมัยสงครามโลก
พี่เอเดินหัวเราะมากอดคอผมแล้วก็พากันไปกินข้าวพร้อมกับพวกนักเรียน
ณ โรงอาหารของ รร.นายเรือ พี่เอแนะนำผมให้รู้จักกับรุ่นพี่และรุ่นน้องของเค้าที่กำลังนั่งรับประทานอาหารร่วมกันกับพวกนักเรียนนายเรือ
??? - "
ตั้งแต่พี่มึงได้นาวาตรี แม่งก็ไม่ค่อยมากินข้าวกับพวกพี่เลยว่ะ เล่นตัวชิบหาย" เพื่อนของพี่เอคนนึงพูดน้อยใจตัดพ้อต่อว่าพี่เอที่ไม่ค่อยกลับมารวมกลุ่ม
??? - "
ใช่ซี้ พวกกูมันแค่เรือเอกนี่หว่า จะไปเทียบนาวาตรีได้ไงใช่มะไอ้น็อต ?" เพื่อนของพี่เออีกคนก็ร่วมวงพูดจาประชดทำหน้าตากวนตีนใส่พี่เอ
ผม - "ใช่ๆ กับน้องกับนุ่งนะยังไม่ค่อยจะมีเวลาเลยล่ะ อ้างว่าติดงานตลอดเลยแต่ที่ไหนได้อยู่งานเลี้ยง" พูดไม่ทันจบประโยคผมก็โดนพี่เอเบิ๊ดกระโหลก 1 ที
พี่เอ - "งานเลี้ยงห่าไรล่ะ ไอ้นี่ก็พูดไปเรื่อยเปื่อย ใครจะไปว่างเหมือนกลินอย่างมึงล่ะไอ้ตูน วันๆ ไปปาร์ตี้กับสาวๆ กันอย่างเดียว"
พี่ตูน - "ปาร์ตี้เหี้ยไรล่ะ วันๆ กูอยู่แต่ในเรือซ่อมเครื่องซ่อมเรดาห์ทั้งวัน ต้องไอ้นุ๊กนู่นปาร์ตี้บ่อยยิ่งกว่ากูอีก แม่งออกงานตลอด รู้งี้ไปอยู่นาวินกับแม่งดีกว่า"
พี่ๆ ทั้ง 3 คนพูดถึงอดีตตอนเรียนที่ รร.นายเรือ และตอนแยกย้ายกันไปตามทางของแต่ละคนว่าใครจะไปอยู่เหล่าไหนของ ทร. ( จะเป็นแบ่งเป็น นาวิน, กลิน 
และ นาวิกโยธิน ) เพื่อนพี่เอทั้ง 2 คนนั้น ชื่อ "พี่นุ๊ก" กับ "พี่ตูน" เท่สูงหล่อตามสไตล์นายทหารหนุ่มไฟแรง ที่สำคัญเป็นเพลย์บอยเสือผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ -.- 
ทั้งพี่เอ,พี่นุ๊กและพี่ตูนไม่ได้สอนประจำที่ รร.นายเรือ แต่จะไปๆ มาๆ ตามรีเควสต์ของใครบางคนที่คุม รร.นายเรือ ( คงไม่ต้องให้บอกนะว่าใคร เหอะๆ )
พี่นุ๊กค่อนข้างจะขี้เก๊กมาดเข้มและคุยเป็นงานเป็นการซะส่วนใหญ่ คงเป็นเพราะพวกนาวินที่ในอนาคตต้องเป็นเจ้าคนนายคนเลยต้องดูมาดเข้มสักหน่อย
ซึ่งต่างกับพี่ตูนที่เฮฮาไปวันๆ จนบางทีดูไร้แก่นสารมาก -*- ถึงอย่างนั้นก็เถอะแต่แกก็เก่งเรื่องเครื่องยนต์กลไกลมาก ( ตะแกไปต่อ ป.โท ที่ MIT -*- )
พี่ตูน - "น็อต ...เรื่องที่พี่ขอล่ะว่าไง ? ....yes or no ???"
ผม - "ความจริง ....น้องพี่พี่ก็น่าจะจัดการเองนะ ผมมันคนนอก มาให้ผมจัดการแบบนี้เด๋วมันจะไม่ชอบใจไปกันใหญ่นะ มันจะเชื่อผมหรอ ???"
พี่ตูน - "ถ้าไม่เชื่อก็ให้แม่งหาทางกลับเองดิ ปล่อยป่าแม่งไปเลยสัก 3-4 วัน จะได้หายดื้อ"
ผม - "พี่ทำให้มันยอมไปกับผมก่อนเถอะ เหอะๆ" พี่ตูนมีน้องชายอีก 2 คน ชื่อ "ต้า" เรียนอยู่ รร.นายเรือ ปี 2 และอีกคน ชื่อ "ต่อ" อยู่ ม.2
น้องคนรองจากพี่ตูนเป็นเด็กชอบทะเลาะวิวาทหัวรั้นและดื้อสุดๆ ขนาดที่ รร.นายเรือ ยังจะเอาออกตั้งหลายครั้งแต่ติดที่ว่าพ่อพี่ตูนเค้าเส้นใหญ่เลยได้เรียนต่อ
พี่ตูนขอให้ผมหรือพี่เอช่วยเอาไปอบรมวินัยในป่า ( พี่เอไม่ว่างเลยซวยผมไป -*- ) สัก 3-4 วัน เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น ( แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นเลยสักนิดเดียว เหอะๆ )
2
วันต่อมาที่ในป่าแห่งนึงที่ อ.พบพระ จ.ตาก
ผม - "ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา !!!" ผมเอาตีนสะกิดไอ้ต้าให้ตื่นจากการหลับไหลที่พี่ตูนวางยาสลบใส่มันเมื่อ 8 ชั่วโมงก่อน
ไอ้ต้า - ".....พี่น็อต ??? .....ผมอยู่ไหนวะเนี่ย ??? .....แล้วทำไมผมถึงมาใส่ชุดนี้ล่ะ ???" ไอ้ต้างุนงงเพราะตื่นขึ้นมาตัวเองก็อยู่ในชุดพรางซะงั้น
ผม - "ไม่ต้องมาตีหน้ามึน ...... เอ้อ ถึง DZ พอดี งั้นไปกันเถอะ" ผมดึงแขนเสื้อไอ้ต้าลุกขึ้นเข้าประชิดตัวจากด้านหลังแล้วเกี่ยวตัวล็อคเข้ากับตัวมันจนแน่น
ไอ้ต้า - "นี่มันอะไรกันพี่น็อต ??? ...เฮ๊ยพี่ ...เด๋วๆ อย่าเพิ่งๆ" ไอ้ต้าพยายามดิ้นรนขัดขืนไม่เดินไปที่ประตูทางออกเครื่องบินเล็กแต่ก็ไร้ผล
ผม - "หลับตากัดฟันเก็บคองอเข่าคิดถึงพ่อแก้วแม่แก้วให้ดีเน้อ"
2
นาทีต่อมาที่พื้นป่าแห่งนึงใน อ.พบพระ จ.ตาก
ไอ้ต้า - "ทำเหี้ยไรวะพี่ ??? ตะกี้ผมเกือบตายห่าแล้วนะ" ทันทีที่ไอ้ต้าลงถึงพื้นก็โวยวายด่าผมเป็นชุด
ผม - "ก็แค่เกือบ ....จากนี้อีก 4 วันเราจะใช้ชีวิตอยู่ที่ป่านี้ในฐานะครูกับลูกศิษย์ ....มีคำถามมั้ยนักเรียน ?" ผมยืนเก็บร่มซุกในพุ่มไม้เช็คปืนและอุปกรณ์ต่างๆ
ไอ้ต้า - "วิทยุอยู่ไหน ??? ผมขอใช้หน่อย"
ผม - "ไม่มี เราจะตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลา 4 วัน ....มีแค่นี่และไอ้นี่" ผมโยนปืนพกและเป้สนามให้ไอ้ต้า
ไอ้ต้า - "ส่งวิทยุมาให้ผมเด๋วนี้ !!!" ไอ้ต้าเล็งปืนมาที่ผมทันที ผมเลยชูกล่องกระสุนให้มันดูแล้วเก็บเข้ากระเป๋าเป้
ผม - "ทีหลังดูด้วยว่ามันมีลูกหรือปล่าวก่อนจะเล็งใคร ....นั่นคือบทเรียนแรก สำหรับเอ็งตอนนี้ใช้ไอ้นี่ไปก่อน" ผมปามีดเดินป่าปักลงกับพื้นใกล้ๆ กับเท้ามัน
ไอ้ต้า - "อย่าบังคับให้ผมทำไรที่ไม่อยากทำ .....ผมบอกให้ส่งวิทยุมา !!!" ไอ้ต้าหยิบมีดแล้วหันคมใส่ผม
ผม - "บทเรียนที่ 2 ....ถ้าคิดจะแทงใครให้ตายก็อย่าทำให้เค้ารู้ตัว จำใส่กระโหลกไว้ด้วย ....เด็กหนอเด็ก" ไอ้ต้าโมโหจัดเลยพุ่งตัวเข้ามาหมายจะแทงผม
ผมถีบต้นไม้ที่ยืนตายซากต้นข้างๆ ลำต้นมันเปราะมากๆ พอถีบอย่างแรงมันก็ล้มทับไอ้ต้าแทบทั้งต้น
ผม - "บทเรียนที่ 3 ....ในบางกรณีสิ่งแวดล้อมรอบตัวคือกุญแจสำคัญในการเอาชีวิตรอด" ไอ้ต้ายังไม่ละความพยายามขว้างกิ่งไม้กิ่งใหญ่ใส่ผมแล้ววิ่งเข้าหา
ผมเอากระเป๋าเป้รับมีดไอ้ต้าที่แทงเข้ามาอย่างแรง ผมกดกระเป๋าเป้ลงพื้นมือไอ้ต้าเลื่อนลงต่ำผมเลยเอาตีนเหยียบมือข้างที่ถือมีดแล้วตีเข่าเข้าคางไอ้ต้าจนหงาย
ผม - "บทเรียนที่สำคัญ ....จงแพ้คนที่เก่งกว่าแล้วก็ปรับปรุงตัวให้เก่งขึ้นซะ ....นี่ๆ ไอ้ต้า ถามจริงๆ เอ็งไม่รู้หรือไงว่าทำไมเอ็งถึงต้องระเห็ดมาอยู่ที่นี่ ???"
ไอ้ต้าเช็ดเลือดที่ไหลซิบๆ ออกจากปาก ลุกขึ้นมาบ่นเรื่องพ่อและพี่มันเป็นชุดที่ชอบบังคับให้ทำในสิ่งที่มันไม่อยากทำ อาการของมันคือน้อยใจพ่อและอิจฉา
พี่ตูน มันต้องการเอาชนะทั้ง 2 คนเพราะพ่อมันจะให้ความสำคัญกับลูกชายคนโตอย่างพี่ตูนมากกว่า ไอ้ต่อน้องชายคนเล็กสุดท้องแม่มันก็รักอย่างกับไข่ในหิน 
ส่วนตัวมันที่เป็นลูกชายคนกลางกลับไม่ได้รับความเหลียวแลจากทั้งพ่อและแม่ มันเลยทำตัวเป็นเด็กเจ้าปัญหากับทุกคนเพื่อให้พ่อและแม่มันสนใจ
ผม - "To mainpulates the fears in other, You must first master your own. .....รู้มั้ยว่ามันแปลว่าอะไร ?" ไอ้ต้านั่งนิ่งพิงต้นไม้ก้มหน้ากอดเข่าส่ายหน้า
ผม - "ถ้าเอ็งจะทำให้คนอื่นกลัวเอ็งก็ต้องควบคุมความกลัวของตัวเองซะก่อน ....ถ้าเอ็งอยากจะเอาชนะพี่ตูน ....เอ็งก็ต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ซะก่อน"
ไอ้ต้าเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสีหน้าสนอกสนใจแต่ตาแดงก่ำจนน้ำตาคลอเบ้า ผมเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
ผม - "เฮ๊ย !!! อะไรวะ ??? 55555 .....โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วยังจะร้องไห้ขี้มูกโป่งอีก 55555" ผมเดินเข้าไปลูบหัวแล้วพยุงให้มันลุกขึ้น
ไอ้ต้า - "ร้องไห้บ้าไรล่ะ ....ฝุ่นมันเข้าตาเฟ๊ย" ไอ้ต้าเอาแขนเสื้อเช็ดหน้าเช็ดตาเก็บมีดเข้าซองที่เอวแบกกระเป๋าเป้ใส่หลังยืนตรงรอผมที่เนินด้านล่าง
ไอ้ต้า - "ผมพร้อมแล้วครับครู !!!" ถึงการเริ่มต้นจะไม่ดีระหว่างผมกับมันแต่อย่างน้อยตอนนี้มันก็ยอมรับตัวผมแล้วในฐานะครูคนนึง
4
วันต่อมา เวลาประมาณ 1410 pm ณ ป่าที่เดิมของจังหวัดตาก
ผม - "หมดเวลาพักละ เก็บของแล้วไปกันต่อ" ผมปลุกไอ้ต้าที่นั่งพิงขอนไม้งีบหลับพักเอาแรง
ผม - "ฟังให้ดี ....จากนี้ไปเราจะเข้าพื้นที่อันตราย ข้างหน้าจะเป็นเส้นทางที่มีการขนยาเสพติดและของผิดกฎหมายมากที่สุดแห่งนึง ....ระวังตัวด้วยล่ะ"
ไอ้ต้ามองผมตาปริบๆ เหงื่อแตกพลั่กด้วยอาการตื่นกลัวที่ผมหยิบปืนออกมาเช็คทั้งปืนพกและ HK 33 ด้วยสีหน้าจริงจัง
ผม - "ไม่ต้องกลัว เราจะไม่เข้าปะทะแต่เราจะเก็บข้อมูลแล้วส่งให้พวก ตชด. แทน .....อ้อ เกือบลืม ....รับ !!! .....ยิงเมื่อได้รับคำสั่งเท่านั้นนะ"
ผมหยิบกล่องกระสุน 9 มม. และ ปืน MP-5 จากกระเป๋าเป้แล้วโยนให้มัน ไอ้ต้านั่งโหลดลูกกระสุนมือไม้สั่นจนลูกกระสุนร่วงจากมือ
ผม - "เฮ๊ย ใจเย็นๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ บอกแล้วไงว่าเราจะไม่เจ้าปะทะ ส่วนปืนน่ะมีเผื่อไว้  ดีกว่าตอนจะใช้แล้วไม่มีให้ใช้ ....กูไม่ปล่อยให้มึงเป็นไรหรอกน่า"
1
ชั่วโมงต่อมาผมพบรอยเท้าของกลุ่มคนประมาณ 7-8 คน แยกกันเป็น 2 ทาง ขึ้นไปทางเหนือและทางตะวันออก
ผม - "งานเข้าซะแล้วซิกู กะว่ามาทางนี้แล้วจะไม่เจอแล้วนะ" ผมยืนดูแผนที่อีกครั้งเพื่อหาเส้นทางอื่นที่ปลอดภัยและเร็วกว่านี้
ไอ้ต้า - "อะไรหรอ ???"
ผม - "ดูนี่ รอยเท้าพวกนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ....ไอ้นี่ไปทางเดียวกับเรา ( ขึ้นเหนือ ) ส่วนไอ้นี่ไปทางนู้น ( ตะวันออกไปทางพม่า )"
ผม - "เอ็งดูรอยเท้าพวกนี้ที่ไปทางตะวันออกซิ ....กับพวกนี้ที่ขึ้นเหนือแล้วเปรียบเทียบกับของเราดีๆ มีอะไรที่ต่างกัน ???" ไอ้ต้าก้มลงนั่งพิจารณาดูอยู่พักนึง
ไอ้ต้า - "....รอยเท้าพวกนี้จมดินลึกกว่าพวกเราทั้งสองเส้นทาง ส่นอันนี้ ( ขึ้นเหนือ ) ดินจะดูกระจุยมากกว่าอีกรอย ....ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ ?"
ผม - "ก็เพราะมันแบกของที่มีน้ำหนักมากน่ะซิ ส่วนไอ้ 4-5 คนที่ไปทางเดียวกับเรานี่มันกำลังเร่งรีบอย่างมาก ...สงสัยว่ากำลังวิ่งอยู่" ไอ้ต้ามองหน้าผมงงๆ
ผม - "เวลาเดินเร็วๆ หรือวิ่งเร็วๆ ปลายเท้าเราจะจิกลงพื้นดินลึกมากกว่าตรงส้นเท้า ....ดูแล้วน่าจะตามไอ้พวกที่แบกของหนักอย่างรีบเร่งแล้วก็พลัดกัน"
ไอ้ต้า - "งั้นก็แปลว่าไอ้รอยเท้าที่วิ่งๆ นี่เป็นพวก ตชด. หรอ ?"
ผม - "ไม่แน่ ....แทนที่พวกนี้ ( ทิศเหนือ ) จะเป็นคอมแบททั้งหมดแต่กลับมีรองเท้าผ้าใบกับอีแตะผสมอยู่ด้วย ....วิ่งสะเปะสะปะไม่ใช่รูปแบบการสะกดรอย"
ผม - "ส่วนทางนี้ ( ทิศตะวันออก ) กลับเป็นคอมแบทหมดเลย แถมรอยเท้าพวกนี้มีรอยเลือดแห้งๆ หยดอยู่ด้วยหน่อยนึง ...เป็นไปได้ว่ามีคนเจ็บอยู่ด้วย"
ไอ้ต้า - "แล้วเราจะไปทางไหนดี ???" ไอ้ต้าหันซ้ายหันขวาด้วยอาการลังเลว่าจะไปทางไหนดี
ผม - "....ทางนี้ดีกว่า ....ทางใครทางมัน อย่าเข้าไปยุ่งเลยนิเด๋วจะยุ่งยากซะปล่าวๆ .....สงสัยจะไม่ทันละ" ผมรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่พุ่มไม้ด้านข้างประมาณ 5 m
??? - "
หยุด !!! ทิ้งอาวุธแล้วหมอบลงกับพื้น !!!" ตชด. หนุ่ม 2 นายเผยตัวจากที่ซ่อนเล็งปืนมาทางผมกับไอ้ต้า
ผม - "อย่าขยับนะต้า ไม่งั้นเรา 2 คนเป็นผีเฝ้าป่าแน่ เด๋วกูจัดการเอง .....หวัดดี พวกผมคนเป็นคนไทย ....พวกนายมีคนเจ็บใช่มั้ยล่ะ ? ผมเคยเรียนเสนารักษ์นะ"
??? - "
กูบอกให้ทิ้งปืนแล้วหมอบลงกับพื้นไงไอ้เหี้ย !!!"
ผม - "สงสัยจะพูดกันไม่รู้เรื่องแฮะงานนี้ ....ไม่ว่าจะเกิดไรขึ้นเอ็งก็ห้ามยิงเป็นอันขาดนะ ให้หมอบลงกับพื้นให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้" ไอ้ต้าพยักหน้างึกๆ
ผม - "ผมทิ้งแล้วๆ อย่ายิงนะ อย่ายิง" ผมดึงแมกกาซีน HK 33 ออกโยนทิ้งลงพื้นแล้วนั่งคุกเข่าเอามือกุมท้ายทอย ไอ้ต้าก็เลยทำตามด้วยอาการตื่นกลัว
ทั้ง 2 คนค่อยๆ ก้าวเท้ามาหาผมอย่างช้าๆ คนนึงเดินเข้าไปกดไอ้ต้าให้นอนลงกับพื้นแล้วเล็งปืนมาทางผมเพื่อคุ้มกันอีกคนที่กำลังตรวจค้นร่างกายผม
ผม - ".....ปืนนายไม่ได้ปลดเซฟแน่ะ ดูดิ" 
??? - "
ไอ้สัดอย่าพูดมาก .....มึงเป็นใครบอกมา แล้วมาทำอะไรที่นี่ ???" ผมพยายามเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อแย่งปืนแต่ก็ไร้ผลเลยต้องตามน้ำไปก่อน
ผม - "พวกนั้นกำลังไล่ตามพวกนายทั้งๆ ที่มีคนเจ็บอยู่นะ อีกไม่นานมันก็จะรู้ตัวว่าโดนหลอกให้ไปผิดทาง อยู่ที่นี่นานๆ คงจะไม่ดีสักเท่าไร ...ว่างั้นมั้ย ?"
ตชด. หนุ่มนายนั้นถึงกับนิ่งไปนิดนึงก่อนจะตรวจค้นร่างกายผมต่อ ส่วนอีกคนที่เอาเข่าทับหลังไอ้ต้าก็กำลังเหนื่อยหอบเพราะบาดเจ็บจากการโดนยิง
ผม - "เพื่อนนาย ....เสียเลือดมากเกินไปแล้วนะ โดนยิงมาหรอ ?" ทันที่ ตชด. นายนั้นหันกลับไปมองเพื่อนผมคว้าปืนจับแมกกาซีนแล้วดึงออกทันทีอย่างเร็ว
แล้วพุ่งตัวเอาศอกกระแทกเข้าหน้าจนมันล้มแต่มันดึงคอเสื้อผมได้เลยล้มไปด้วยกันทั้งคู่ เสียงปืนดังขึ้น 1 นัดท่ามกลางความเงียบในป่า 
...
ตชด. หนุ่มปล่อยมือจากปืนทันที ผมกับมันแลกหมัดกันคนละทีสองทีก่อนที่ผมจะคว้าเอาปืนพกจากเอวของมันได้แล้วก็โดนมันถีบจนผมกระเด็นออกมา
ผมเล็งปืนพกไปที่ ตชด. หนุ่มนายนั้น แต่ ตชด. หนุ่ม อีกคนก็หน้าทิ่มลงไปกับพื้นคงเป็นเพราะเสียเลือดมาก + กับความเหนื่อยล้าของร่างกายเลยสลบไป
ผม - "เสียงปืนเมื่อกี้ทำให้พวกมันรู้ตัวละ มันวกกลับมาหาเราแน่" ผมโยนปืนพกคืนให้มัน เดินไปดูไอ้ต้าแล้วหยิบปืนกับเป้สะพายใส่หลัง
ผม - "เพื่อนมึงตายแน่ถ้ามัวโอ้เอ้อยู่ที่นี่ ....จุดรับกลับอยู่ที่ไหน ?" ตชด. หนุ่มหยิบแผนที่ออกมากางดูแล้วชี้ให้ผมดูถงจุด PZ ( Pick up Zone )
ตชด. หนุ่ม - "อีกประมาณ 15 นาที ฮ. จะมารับที่จุดนี้ .....พวกของกูอยู่ที่นั่นกันหมดแล้ว"
ผม - "รับหน้าที่รั้งท้ายเพื่อถ่วงเวลาให้เพื่อนหนีทั้งๆ ที่ตัวเองเจ็บอยู่งั้นหรอ ? ใจกล้าดีนี่ .....ต้า ช่วยพยุงเค้าที เราจะกลับบ้านกันละ"
2
ชั่วโมงต่อมาที่ ค่าย ตชด. แห่งนึงใน จ.ตาก
ผมเพิ่งวางสายจากการรายงานเหตุการณ์ทั้งหมดให้นายทหารสัญญาบัตรของ ทร. ท่านนึงทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ตชด. หนุ่มนายนั้นก็เดินเข้ามาพอดี
ตชด. หนุ่ม - "ไอ้เด็กนั่นอาการเป็นไงบ้าง ?" ตชด. หนุ่มนายนั้น ชื่อ "ชาติ" เดินเข้ามาดูอาการของไอ้ต้าที่นอนให้น้ำเกลือแล้วก็ส่งเป๊ปซี่ให้ 2 กระป๋อง
ผม - "มันแค่อ่อนเพลียจนหลับไปน่ะ นอกนั้นก็ไม่มีไรน่าเป็นห่วง ....แล้วเพื่อนเอ็งล่ะเป็นไงมั่ง ?"
ไอ้ชาติ - "ปลอดภัยแล้วล่ะ ตอนนี้กำลังนอนพักผ่อนอยู่ .....ข้าขอโทษด้วยสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น" ไอ้ชาติยื่นมือมาให้ผมจับมือเป็นการขอโทษ
ผม - "ไม่เป็นไร สถานการณ์มันบังคับแบบนั้นจะว่าอะไรก็ไม่ได้ด้วยซิ" ผมยื่นมือไปจับมือไอ้ชาติเพื่อรับการขอโทษจากมัน 
ไอ้ชาติเสนอให้พวกผมไปพักผ่อนที่ห้องพักของมันและจะเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการขอโทษที่ล่วงเกินและขอบคุณที่ช่วยเหลือพวกมันให้รอดมาในวันนี้
เวลาต่อมาที่ห้องพักของไอ้ชาติ
ไอ้ชาติ - "ทำตัวตามสบายเลยนะ เด๋วข้าจะเข้ามาช่วงค่ำๆ ทีวีคอมพ์เปิดได้เลยนะตามสบาย หนังโป๊ก็มีนะเว้ย" ไอ้ชาติขับรถมาส่งผมกับไอ้ต้าที่ห้องของมัน
ห้องของมันอยู่ชั้น 3 เป็นห้องเดี่ยวมีห้องน้ำในตัวระเบียงด้านหลังกว้างพอสมควรและด้านหน้ามีพื้นที่ให้วางโต๊ะตัวเล็กๆ 1 ตัวกับเก้าอี้อีก 2 ตัว
ในห้องจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยพอสมควร ผมสำรวจห้องจนทั่วก็เผลอหลับไปสักพักก็มีคนมากดออดที่หน้าประตูเป็นสาวผมยาวขาวสวย ชื่อ "หนิง"
จากการถามไถ่เธอก็บอกว่าเป็นเพื่อนสนิทของไอ้ชาติ ( ก็แฟนน่ะแหละแม่คุณ เหอะๆ -*-a ) จะมาทำกับข้าวมื้อเย็นให้กิน ( โอ้ อันนี้เยี่ยมที่สุดเลย )
ผมเปิดทีวีนั่งอ่านหนังสือที่ชั้นเพื่อรอข้าวเย็น ไอ้ต้าก็หลับได้เรื่อยๆ ไม่ยอมตื่นสักที -*- ส่วนหนิงก็วุ่นอยู่กับการทำกับข้าวที่ระเบียงด้านหลัง
เมื่อกับข้าวเสร็จไอ้ชาติก็กลับมาพอดี ผมปลุกให้ไอ้ต้าลุกขึ้นมากินข้าว ไอ้ชาติกับผมคุยกันเรื่องต่างๆ นาๆ ส่วนใหญ่ก็เรื่องงานของ ตชด. น่ะแหละ
ไอ้ชาติอยากจะเลี้ยงเหล้าเป็นการขอบคุณผมที่ช่วยชีวิตพวกมัน ผมก็เออออๆ ตามใจไม่อยากจะขัดใจมัน อีกอย่างเพราะไอ้ชาติเป็นคนสบายๆ เฮฮาดี
มีเรื่องเล่าทะลึ่งๆ ขำๆ ให้ฟังตลอด ตอนนั้นผมไม่คิดที่จะมีอะไรกับมันเลยนะแม้แต่สักนิดเดียว เรียกได้ว่าไม่เอาเลยแหละ ไม่ใช่เพราะมันมีแฟนแล้ว
แต่คนที่มีความคิดความอ่านอย่างมันนี้หาได้ยากมากบทจะเป็นการเป็นงานก็น่าเชื่อถือเป็นที่สุด บทจะสนุกสนานเฮฮาก็มากซะจนผมขำปวดท้อง
ดูๆ ไปแล้วก็ทำให้ผมคิดถึงเพื่อนคนนึงที่ชื่อแจ๊ค นี่ก็เป็นอีกข้อที่ผมปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้เลยว่าจะไม่มีอะไรกับมันเป็นอันขาด
เวลาต่อมาที่ระเบียงหน้าห้องของไอ้ชาติ
ไอ้ชาติซื้อเหล้ามานั่งกินกับผมและไอ้ต้า 2 กลม นั่งกินไปจนหมดกลมแรกไอ้ต้าก็ขอตัวไปนอนก่อนเพื่อน เหลือแค่ผมและไอ้ชาติที่ต่อกันยาวๆ จนเกือบหมด
กลมที่ 2 แต่แล้วไอ้ชาติก็ขอตัวเข้าไปนอนอีกคน ผมนั่งคิดถึงเรื่องในอดีตไปเรื่อยเปื่อยทั้งเรื่องงานและเรื่องจิปาถะมากมาย
พอเหล้าหมดผมก็เข้าไปนอนบนฝูกที่พื้นห่างจากเตียงประมาณ 1 เมตรเห็นไอ้ชาตินอนกอดหนิงซะกลมเลยเชียว ผมนอนไปสักพักก็ได้ยินเสียงเตียงดังเอี๊ยดๆ
ผมหันไปดูก็เห็นการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะๆ ในผ้าแพรสีน้ำเงินผืนบางที่ก่อให้เกิดเสียงดังเอี๊ยดๆ ที่เตียง ....อ๋อ ไอ้ชาติกำลังเอาน้องหนิงอยู่นี่เอง เหอะๆ -*-a
เตียงของไอ้ชาติไม่สูงมากนักซ้ำจุดที่ผมนอนทำให้เห็นทุกอิริยาบถที่กำลังนัวเนียวกันบนเตียงอย่างชัดเจนแม้จะไร้แสงไฟก็ตาม
ผมเลยหรี่ตานอนดูหนังสดไปเรื่อยๆ เจ้า .357 ของผมก็เริ่มแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ไอ้ชาติโผล่หน้าออกมาจากผ้าแพรเงยหน้าซี๊ดซ๊าดปากยกขาหนิงขึ้นสูง
แล้วซอยเอวยิกๆ ไอ้ชาติกระแทกทั้งเร็วและแรงจนผ้าแพรที่คลุมคอมันอยู่ค่อยๆ เลื่อนลงๆ จนไปอยู่ที่เตียงเผยให้เห็นขาและสะโพกของหนิงที่ขาวจั๊วน่าเจี๊ยะ
ไอ้ชาติก้มตัวลงไปดูดนมของหนิงทั้งซ้ายและขวาสลับกับดูดปากไซร้คอกระหน่ำซอยเอวจนหนิงหลุดปากครางในลำคออื้ออ้าๆ อารมณ์ผมถึงกับเตลิดพอ
ได้ยินเสียงครางของหนิงไม่นึกว่าจะครางได้อารมณ์ซะขนาดนี้ ผมงัดเจ้า .357 ของตัวเองออกมารูดเล่นในผ้าห่มพอเพลินๆ เสียวๆ กะไม่ให้แตก
ด้วยอากาศที่ร้อนพอสมควรในคืนนั้นทำให้ไอ้ชาติดึงผ้าแพรออกไปจนหมดแล้วตั้งหน้าตั้งตาซอยเอวยิกๆ อย่างไม่สนใจว่าผมจะตื่นขึ้นมาดูหรือไม่
สักพักไอ้ชาติก็พลิกตัวลงนอนแล้วให้หนิงขึ้นขย่มให้ หนิงทำได้ดีมากซะจนผมเกิดอารมณ์จากที่รูดเล่นๆ ถึงกับตั้งหน้าตั้งตาชักว่าวเพื่อให้เกิดความเสียว
หนิงนั่งยองๆ เงยหน้าซี๊ดปากขย่มในจังหวะเนิบๆ แต่เสียงเนื้อที่กระทบกันทำให้ไอ้ชาติยิ่งกระเด้งเอวสวนขึ้นไปรั้งสะโพกของหนิงลงมาดังตับๆๆ
จากจังหวะช้าๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นเร็วขึ้นๆ จนหนิงโน้มตัวเอามือลงไปเท้าที่หน้าอกของไอ้ชาติโก่งสะโพกขึ้นสูงนิดนึงแล้วขย่มลงมาเร็วจี๋ ไอ้ชาติก็เอามือเค้น
คลึงที่หน้าอกของหนิงอย่างเมามันส์ ผมเห็นอย่างนั้นก็หยุดมือที่กำลังชักว่าวให้ตัวเองไม่ได้ซะแล้ว ...เรียกได้ว่าติดลมบนซะแล้วอาเด่ะ 555
ไอ้ชาติลุกเปลี่ยนเป็นท่าหมาทำให้ผมเห็นควยของมันถนัดตามากขึ้นถึงแม้จะลางๆ ก็ตาม ควยของไอ้ชาติยาวมากแต่ใหญ่พอๆ กับผม หัวบานโร่ลำท่อนสีคล้ำ
ไอ้ชาติยัดควยขนาดเขื่องของตัวเองแบบทีเดียวมิดด้ามจนหนิงก้มหน้าร้องอ้าเบาๆ ไอ้ชาติรั้งสะโพกหนิงเข้าเอวตัวเองที่กำลังกระแทกอย่างต่อเนื่องจนเสียง
เนื้อที่กระทบกันดังลั่นห้อง ผมนอนดูหนังสดพลางชักว่าวไปด้วยเพราะความเสียวผมเผลอครางในลำคอและหายใจแรงๆ ออกไปทำให้ไอ้ชาติหยุดกระแทก
ไปนิดนึงแล้วหันมามองที่ผมแล้วเอื้อมมือไปเปิดไฟจนสว่างไปทั้งห้อง ผมเลยหยุดชักว่าวหลับตาแกล้งนอนนิ่งๆ
ไอ้ชาติ - "ชักว่าวไม่มันส์หรอก สนป่าว ?" ผมลืมตามองหน้าไอ้ชาติด้วยความงงกับสิ่งที่มันพูด พอไอ้ชาติอธิบายให้ฟังก็เลยเข้าใจ ที่แท้ ....ไอ้ชาติออฟ ญ มา
เมื่อไอ้ชาติเชื้อเชิญอย่างนี้มีหรือที่ผมจะไม่ลุกขึ้นไปร่วมวงด้วย ผมกับไอ้ชาติแท็คทีมกระหน่ำยกกำลังสองกับหนิงจนเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงก็สงบ
ผมลุกขึ้นไปล้างเนื้อล้างตัว ( ล้างควย >< ) พอออกมาก็เห็นไอ้ต้านอนเอามือทั้งสองข้างกุมเป้าที่นูนเป็นลำมองหน้าผมตาปริบๆ ( มันไม่ชอบนอนห่มผ้า )
ผม - "อ้าว ยังไม่อีกหรอไอ้ต้า ? ....เห็นหมดแล้วเด่ะ 555" ไอ้ต้านอนยิ้มหน้าแดงก่ำ
ไอ้ชาติ - "นอนกุมกะโปกอยู่นั่นแหละจะชักว่าวก็เข้าห้องน้ำได้เลยนะไอ้น้อง" ไอ้ชาติที่กำลังเปลือยล่อนจ้อนโตงเตงลุกขึ้นใส่กางเกงบอลหันไปพูดกับไอ้ต้า
ไอ้ชาติ - "หรือจะลองขึ้นครูกับพี่หนิง ?" ไอ้ต้าลุกขึ้นนั่งยิ้มเอามือทั้งสองข้างกุมเป้าแน่น ไอ้ชาติกระซิบหนิงๆ เลยขยับลงจากเตียงเข้าหาไอ้ต้าแล้วผลักมันลง
นอนก่อนจะดึงกางเกงบ็อกเซอร์และกางเกงในลงแล้วเริ่มโม๊คควยขนาด 6" ของไอ้ต้าที่หัวยังเปิดไม่สุดและสีก็ยังนวลๆ อยู่พอสมควร ส่วนหัวเยิ้มไปหมด
ไอ้ต้าหลับตาเกร็งตัวไปทั้งตัวครางอื้ออ้าๆ สักพักหนิงก็จำเป็นต้องกลับเพราะพ่อ ( แม่งดา ) เรียกกลับ ไอ้ต้านอนควยกระดกหงึกๆ ตีหน้างงแล้วก็เก็บเข้าที่
ไอ้ชาติ - "เด๋วข้ามานะ ไปส่งหนิงก่อน" แล้วไอ้ชาติก็กอดคอหนิงเดินออกไป
ผมทิ้งตัวลงนอนที่เดิมที่อยู่ข้างๆ ไอ้ต้า สักพักไอ้ต้าก็เริ่มชักว่าวในผ้าห่มอีกรอบ จากควยผมที่หดๆ ก็กลับมาแข็งซะงั้น -*-a
ผม - "ทำไมไม่ไปชักในห้องน้ำวะ ? จะได้ล้างง่ายๆ ไฟสว่างโล่ไม่อายพี่หรือไงวะ ?" ผมหันไปถามไอ้ต้า มันก็หยุดชักด้วยความตกใจนึกว่าผมหลับไปแล้ว
ไอ้ต้า - "โถ่ ทีพี่ 2 คนเปิดไฟเอาเจ๊หนิงต่อหน้าผมยังไม่อายกันเลย กะอีแค่เปิดไฟชักว่าวทำไมผมต้องอายด้วย" ไอ้ต้าหันมายิ้มแล้วก็เริ่มชักว่าวช้าๆ ในผ้าห่ม
ผม - "ไอ้ห่า ดันมานอนชักว่าวข้างๆ ควยกูเลยแข็งอีกแล้วไง" ไอ้ต้าหันมามองขณะที่ผมจับควยที่กำลังแข็งตั้งโด่อยู่ในกางเกงบ็อกเซอร์สีดำ
ไอ้ต้า - "ตะกี้มันส์ป่าวพี่ ?" ไอ้ต้าถามผมด้วยอาการสนอกสนใจ
ผม - "มันส์ดิ มันส์กว่าชักว่าวอีก ไม่เคยอ่าเด่ะ" ไอ้ต้าส่ายหน้าบอกไม่เคย
ไอ้ต้า - "เคยแต่แอบดูพี่ตูนเอา ญ มาฟันที่บ้านพัก 2 คน" ไอ้ต้าหลับตาชักว่าวนอนเกร็งไปทั้งตัวจนกล้ามท้องขึ้นเป็นลอน ( ผ้าห่มยังคลุมควยมันอยู่นะ )
ผม - "ไหนดูของเอ็งหน่อยดิ๊ ตะกี้เห็นแว็บๆ ใหญ่นี่หว่า" ผมเอื้อมมือไปเปิดผ้าห่มออกไอ้ต้าตกใจเอามือปิดแต่ยังไงก็ไม่มิด
ไอ้ต้า - "ไม่ใหญ่หรอกพี่ ของพี่ยังใหญ่กว่าอีก ของผมอ่ะได้แค่ยาว ไม่เชื่อเอาออกมาวัดดิ" ผมเลยงัดควยออกมาวัดกับนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 2 อย่างไม่อาย
สรุปของผมทั้งใหญ่และยาวกว่า 5555 ผมกับไอ้ต้าเลยชักว่าวด้วยกันเพราะต่างคนต่างอารมณ์ยังค้างกันอยู่จากลีลาของฝีปากหนิง
ไอ้ต้านอนเงยหน้าหลับตาซี๊ดปากเกร็งไปทั้งตัวจนกล้ามท้องกล้ามขาขึ้นเป็นลอนกระหน่ำมือชักว่าวยิกๆ ดังหนับๆๆ สักพักมันก็บอกเมื่อย
ผม - "มา งั้นพี่ชักให้" ผมตะแคงซ้ายเอื้อมมือขวาไปชักว่าวให้ไอ้ต้า ทันทีที่มือผมโดนควยของมัน ไอ้ต้าก็ถึงกับเกร็งควยจนแข็งเป๊กเงยหน้าหลับตาครางอือๆ
ผม - "ไม่เคยโดนมือใครมาก่อนเลยหรือวะ ?" ไอ้ต้าตอบเสียงสั่นว่าไม่เคยมีใครชักว่าวให้มีแต่จับกันเล่นๆ ผมเลยกระหน่ำมือชักว่าวให้ไอ้ต้ารัวยิก
ผม - "ชักให้มั่งเด่ะ" ไอ้ต้าหันมามองควยผมแล้วก็ชักว่าวให้อย่างไม่รังเกียจด้วยมือขวา ยิ่งผมชักว่าวให้มันเร็วแรงเท่าไรมันก็ชักว่าวให้ผมเร็วแรงไม่แพ้กัน
ตอนแรกผมคิดไปไกลแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไประหว่างผมกับมันเป็นฉากๆ ผมคิดว่าจะต้องเผลอเอามันแน่ๆ เลยกู แต่แล้วก็ถูกมันพูดขัดขึ้นมาจนได้
ไอ้ต้า - "ผมไม่ให้พี่ตุ๋ยตูดผมนะ ผมขอแค่ภายนอกพอ ...นี่คือคำขอจากศิษย์ถึงครู" ผมเลยรับปากว่าจะไม่มีอะไรมากไปกว่าที่มันขอแค่ภายนอก
ไอ้ต้า - "เจ๊หนิงทำผมอารมณ์ค้างเลยตะกี้ โคตรเสียวเลย" หลังจากนอนชักว่าวให้กันไม่พูดอะไรอยู่นานไอ้ต้าก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดออกมาก่อน
ผม - "เอ็งโม๊คให้พี่ก่อนดิเด๋วพี่โม๊คคืนให้ ...กล้าหรือป่าวล่ะ ?" ผมแกล้งพูดเล่นๆ แต่ถ้าสิ่งที่ผมคิดถูก ผลที่ออกมาก็เยี่ยมไปเลยล่ะ 555
ไอ้ต้า - "จริงหรือป่าวพี่ อย่ามาดีแต่ปากนาาา ผมยิ่งเสี้ยนๆ อยู่ด้วยแหละ" ผมลุกขึ้นเอาควยจ่อปากไอ้ต้ามันถึงกับมองควยผมตาปริบๆ ด้วยอาการลังเล
ผม - "เอาไงล่ะที่นี้ ??? จ่อปากแล้วเนี่ย เด๋วก็รู้ว่าใครดีแต่ปาก" ไอ้ต้าค่อยๆ เอาลิ้นแตะเบาๆ ที่ส่วนหัว .357 ของผมที่เยิ้มไปทั่วทั้งส่วนหัว 
ผมเลยดันควยเข้าปากมันไปเรื่อยๆ แต่ไอ้ต้าเอาลิ้นดันเอาไว้ไม่ให้มันเข้าและมันก็เม้มปากแน่น ริมฝีปากมันเลยรัดลำท่อนของผมมากทำให้ผมเสียวไปหมด
ไอ้ต้าครางในลำคออื้อๆ ผมเลยก้มตัวลงไปโม๊คให้มันมั่งตามข้อตกลงในตอนแรก ผมอ้าปากอมรูดดูดลำท่อนของไอ้ต้าโดยเริ่มจากส่วนหัวจนทั่วทั้งลำท่อน
ผมกับไอ้ต้าอยู่ในท่า 69 ต่างฝ่ายต่างแอ่นเอวเข้าหาปากแต่ละฝ่ายอยู่สักพักจนไอ้ต้าคายควยของผมออกแล้วซี๊ดปากร้องอ้าออกมาดังๆ 
ร่างกายไอ้ต้าเกร็งจนแน่นไปหมดทั้งกล้ามท้องกล้ามขากล้ามไหล่ขึ้นเป็นลอนไปทั้งตัว ผมเลยเร่งจังหวะอมรูดดูดลำท่อนให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ
ไอ้ต้า - "อ๊าาาา พี่ .....ผม .....ไม่ไหวแล้ว อ้าาาาา อ้าๆๆ ....ซี๊ดดดด เร็วๆ เลย อ๊าาาา" ไอ้ต้าแอ่นเอวสวนปากผมขึ้นมาค้างไว้แล้วทั้งควย
และตัวของมันก็กระตุก 2-3 ทีก่อนจะปล่อยน้ำออกมาเป็นจำนวนมากพุ่งเฉียดหน้าผมไปนิดเดียว ไอ้ต้านอนหอบแห่กๆ เหงื่อและน้ำว่าวท่วมตัวเต็มไปหมด
ผมลุกขึ้นนั่งมองมันนอนเอาผ้าห่มปิดหน้าหายใจตัวโยนทั้งเหงื่อที่ซึมออกมาจากร่างกายและน้ำว่าวที่กระจายไปทั่วหน้าท้องและหน้าอกเป็นมัดๆ พองาม
เป็นภาพที่น่าดูมากสำหรับผม ผมดึงตัวไอ้ต้าให้ลุกขึ้นนั่งก่อนที่ผมจะขยับไปนั่งที่ขอบเตียงแล้วกดหัวไอ้ต้าให้โม๊คควยผมต่อเพราะผมยังไม่เสร็จ 
ไอ้ต้าก็ตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างเป็นงานต่างจากตอนแรก ทำเอาผมเสียวจนต้องเอนตัวลงไปนอนเกร็งเด้งเอวสวนปากมันเป็นพักๆ
ไอ้ชาติ - "อ้าวเฮ๊ย !!! ยังไงกันวะเนี่ยไอ้คู่นี้ ???" ไอ้ชาติไขประตูเข้ามาอย่างรวดเร็วเพราะหนีฝนที่กำลังตกอย่างหนัก
เมื่อไอ้ชาติเข้ามาก็เห็นภาพที่แม้แต่ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ผมก็อึ้งๆ ไปเหมือนกัน ไอ้ต้าตกใจมากรีบถอนปากออกจากควยผมแล้วคลุมโปงนอนอย่างเร็ว
ไอ้ชาติ - "ไม่ต้องอายๆ มาถึงขึ้นนี้แล้ว มีไรต้องอายกันอีกวะ ? ต่อกันได้เลยไม่ต้องสนใจกูหรอกไอ้ต้า" ไอ้ต้าถอดเสื้อถอดกางเกงเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว
ผม - "มึงอย่าพูดดิเด็กมันอายนะเว้ย ....มาจับควยกูเล่นเด๋วก็ให้โม๊คซะหรอก ยิ่งอารมณ์ค้างๆ อยู่" ไอ้ชาติจับควยผมชักเล่นอย่างไม่อายผมเลยให้มันชักเล่นไป
ผมกับไอ้ชาติพูดคุยกันเรื่องของหนิงว่าอะไรยังไงมาต่อได้มั้ยในวันพรุ่งนี้ ไอ้ชาติก็บอกว่าได้เด๋วหนิงจะมาพรุ่งนี้ตอนเที่ยงๆ ผมกับไอ้ชาติเลยคุยกันต่อเรื่อง
ที่ผมกับมันแท็คทีมกันเอาหนิงตะกี้ว่ามันส์อะไรท่าไหนยังไง จนไอ้ต้าโผล่หน้าออกมาดูผมกับไอ้ชาติที่นั่งคุยกันจนควยตั้งเด่ในบ็อกเซอร์กันทั้งคู่
ไอ้ชาติเอาควยของตัวเองออกมานั่งเล่นจนหัวเยิ้มแล้วเล่าถึงประสบการณ์เสียวกับ ญ ที่ผ่านๆ มาและกระเทยอีก 2 คนให้ผมฟังอย่างสนุกสนาน ( ฮามาก )
ผมก็เลยเล่าให้มันฟังบ้างเกี่ยวกับประสบการณ์เรื่องฟัน ญ ที่ผ่านมาและเรื่องที่เคยฟัน ช แท้ๆ ( เรื่องของไอ้เนสนักเรียนเตรียม ) แต่ไม่เล่าเรื่องที่ผมโดนฟัน
เพราะเด๋วงานจะเข้าตัวผมซะ -*-a ไอ้ต้าก็นอนตะแคงฟังอย่างตั้งอกตั้งใจมือไม้ยุกยิกๆ ในผ้าห่มเกร็งตัวหลับตาเป็นพักๆ
ไอ้ชาติ - "ไม่ต้องอายแล้วไอ้ต้าเอ้ย จะชักว่าวก็ชักไปเถอะพี่ไม่ได้ว่าอะไรแต่อย่าให้เลอะผ้าห่มจนเอ็งนอนไม่ได้ก็แล้วกัน"
ไอ้ต้าหน้ายิ้มนิดๆ อายจนหน้าแดงนอนหงายดึงผ้าห่มออกแล้วชักว่าวตับๆๆ อีกรอบ
ผม - "มึงมีหนังโป๊มะ ? เอาหนังไทยมันส์ๆ นะ" ไอ้ชาติเลยจัดให้ 4 เรื่องต่อเนื่อง ทั้งผม,ไอ้ชาติและไอ้ต้าต่างคนต่างนอนดูหนังโป๊แล้วชักว่าวกันอย่างเมามันส์
ผมนอนดูบนเตียงกับไอ้ชาติส่วนไอ้ต้านอนดูข้างล่าง ต่างคนต่างชักว่าวของตัวเองจนแตกไปคนละสองรอบแล้วก็นอนกันนิ่งในสภาพนั้นยันเช้า
เช้าวันต่อมาเวลา 0605 am ณ ห้องพักของไอ้ชาติ ที่ จ.ตาก
ผมตกใจตื่นเพราะควยของไอ้ชาติมาแข็งโด่ถูไถไปมาที่เอวของผม อ้าว ....มันหลับนี่หว่า -*-a ( หลับจริงๆ ไม่ได้แกล้ง ) ผมเลยเอาผ้าห่มคลุมท่อนล่างของมัน
แล้วลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเตรียมตัวออกไปวิ่งออกกำลังกายในเช้าวันเสาร์ ผมเหลือบไปเห็นไอ้ต้านอนหงายควยตั้งโด่เด่ในกางเกงบ็อกเซอร์ก็อดเสียดายไม่ได้ 555
ผมวิ่งรับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าบนเนินเขาใกล้ๆ กับห้องพักของไอ้ชาติ วิ่งไปเรื่อยๆ ก็มีผู้สาวสวยหลายคนมาทักว่าย้ายมาใหม่หรอ ?, อยู่ห้องไหนหรอ ? 
ตามทาง 3-4 คน แจ่มๆ ทั้งนั้นเลยแฮะ เด๋วรู้กันๆ เอิ๊กๆ ><
??? - "
เฮ๊ย !!! มึงน่ะ เพิ่งย้ายมาใหม่ใช่มั้ยวะ ? มึงต้องเข้ามารายงานตัวตั้งแต่เมื่อวานแล้วดิ ...มึงมัวไปทำไรอยู่วะ ห๊า ?" 
to be continous .....
********************
BY :  XIII Post : 2009-09-27

No comments:

Post a Comment