Sunday, 2 January 2011

บทที่ 23 " One Step Closer "

ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อน ช่วงต้นเดือน ก.ค. 2009
วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2009 เวลาประมาณ 1135 am ณ สนามยิงปืนกลางแจ้งของค่ายทหารแห่งนึงในจังหวัดลพบุรี
4
วันหลังจากที่ซัดกับไอ้เล็กลูกศิษย์คนใหม่ของครูแสนจนพลาดท่า ( ซี่โครงร้าวสลบคาเวที -*- ) ผมโดนครูแสนสั่งให้อยู่เฉยๆ 
ห้ามออกไปไหนจากบริเวณค่ายก่อนได้รับอนุญาตหรือจนกว่าจะหายดี ....หรือจนกว่าแกจะพอใจ -*-
ผม - "สู้ ......มึงไปเวียนเทียนไหนวะ ?" ผมนอนฟังเพลงอ่านหนังสือบนเตียงผ้าใบใต้ต้นไม้อย่างมีความสุข
ไอ้สู้ - "กูว่ากูจะกลับบ้านไปเวียนเทียนกับครอบครัว แล้วมึงล่ะ ?" ไอ้สู้เก็บ L96A1 คู่ใจเข้ากระเป๋าแล้วหยิบบุหรี่ออกมาดูดนั่งพิงเตียงผ้าใบที่ผมนอน
ผม - "เหอะๆ กูจะไปไหนได้ล่ะ โดนกักบริเวณซะขนาดนี้ .....แถมต้องอยู่สานสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมทีมคนใหม่อย่างไอ้ดำอีก"
ไอ้สู้ - "ฟังดูไม่ค่อยเต็มใจแฮะ เห็นว่าอุตส่าห์ช่วยกันหิ้วปีกลงจากเขากันมาแล้วแท้ๆ ความจริงน่าจะไปได้สวยนะ"
ผม - "ควยเถอะ อันนั้นมันจำเป็นเฟ๊ย" ผมเอาหนังสือฟาดหัวไอ้สู้ไปทีนึงข้อหาพูดมาก
ไอ้สู้ - "กูมาคิดๆ ดูแล้วนะ มันอาจจะมาคู่กับมึงแทนกูก็เป็นได้ ส่วนกูโดนเด้งไปคู่กับนิโอ๊ะอะไรประมาณนั้น"
ผม - "ไอ้บ้า!!! กูกับมึง Sync. SOP กันได้ดีที่สุดใครๆ ก็รู้ อีกอย่างมันเรียนพลซุ่มยิงมารึไงล่ะจะให้มาคู่กูแทนมึง เลอะเทอะน่า" ผมลุกขึ้นนั่งแล้วชกไหล่มัน
ไอ้สู้ - "Sync. SOP มันฝึกกันได้ ส่วนเรื่องพลซุ่มยิง .....ไอ้เล็กอยู่กับครูมา 2-3 ปี คิดว่าครูแกจะไม่สอนมันมั่งเลยรึไง ?" ไอ้สู้ลุกขึ้นสีหน้าเครียดสุดๆ
ผม - "ไม่มีทาง!!! กูจะคู่กับมึงเท่านั้นคนอื่นกูไม่สน อยากเอามาแทนไอ้แจ๊คก็ให้มันคู่กับนิโอ๊ะไปดิ มาเกี่ยวไรกับมึงล่ะ กูกับมึงสาบานกันไว้แล้วนี่หว่า ห๊ะ"
ไอ้สู้ - "......นั่นซิเนาะ สงสัยกูจะเครียดมากไปหน่อย ......โทรหานิโอ๊ะแล้วไปหาไรแดกกันดีกว่า กูหิวละ" ไอ้สู้หันมายิ้มแล้วถีบเตียงผ้าใบที่ผมนอนจนหงาย
ตั้งแต่ตอนนั้นไอ้สู้ก็ดูเงียบๆ จนคนอื่นถามผมกันยกใหญ่
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2009 เวลาประมาณ 0925 am ณ ห้องประชุม ปพ.
??? - "
ไงวะไอ้รุต!!! ไม่ได้เจอกันตั้งนานนึกว่าตายห่าไปแล้ว สบายดีป่าววะ ?" รุ่นพี่คนนึงใน ปพ. ชื่อ "ดล" เดินมาทักผมอย่างรุนแรงด้วยเข็มขัด -*-a
ผม - "หวัดดีพี่ดล ก็เรื่อยๆ น่ะพี่ ......ถ้าพี่ฟาดผมอีกทีผมจะฟ้องพ่อนะเออ เอาเด่ะๆ"
พี่ดล - "ฟ้องหรอๆ เอาซิ ไปเลยๆ บอกให้มาอยู่ ปพ. กับพี่ก็ไม่เชื่อ เสือกไปอยู่ ลว. ดื้อนักๆ" พี่ดลเอาเข็มขัดสะบัดใส่ผมเป็นชุดจนต้องลุกหนีไปหลบหลังไอ้สู้
ไอ้สู้ - "เล่นกันเป็นเด็กไปได้ ....น่ารำคาญ" ไอ้สู้พูดด้วยสีหน้านิ่งๆ แล้วลุกขึ้นไปนั่งหลังห้องกับพวกรุ่นพี่ ปพ. อีกกลุ่ม
พี่ดล - "มัน .....เป็นห่าไรวะ ? เมนส์ไม่มารึไง ? ปกติมันต้องช่วยมึงดิ .....ทะเลาะไรกันรึป่าววะ ?"
ผม - "ไม่ได้ทะเลาะกันหรอกพี่ ส่วนเรื่องอะไรอีกสักพักเด๋วพี่ก็รู้" เนื้อหาการประชุมของวันนี้เกี่ยวกับการจัดทีมใหม่ของเจ้าหน้าที่พิเศษของ ปพ. และ ลว. 
ที่ทำงานให้กับหน่วยงานอื่นของรัฐบาล ( เรียกง่ายๆ คือ "ช่วยราชการ" นั่นเอง ) ผมกับไอ้สู้ยังคงได้ทำงานด้วยกันในที่เดิมและคู่กันเหมือนเดิม
 ....
แต่รายละเอียดถูกเปลี่ยนไป คือเพิ่มไอ้เล็กเข้าไปอีกหนึ่งคนในทีมแทนเพื่อนสนิทพวกผมที่ตายไปเมื่อหลายปีก่อน
เวลาประมาณ 0530 pm ณ เขาลูกเดิมที่ผมไปวิ่งทุกเช้าเย็น
ขณะที่ผมวิ่งจนถึงแยกต้นไทรผมเห็นไอ้เล็กถอดเสื้อนั่งชันเข่าผูกเชือกรองเท้าผ้าใบ ( จนเห็นเป้าตุงของมันอย่างชัดเจน -*- ) อยู่บนก้อนหิน
ไอ้เล็ก - "หายดีแล้วหรอ ?" ไอ้เล็กนั่งขัดสมาธิกุมเป้ากด iPod ฟังเพลงเอาเสื้อพาดไหล่
ผม - "อือ ขืนให้นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ อย่างเดียวมีหวังง่อยแดก" ไอ้เล็กลุกขึ้นจับเป้าแล้ววิ่งขึ้นเขาไปกับผมจนถึงยอด ไอ้เล็กชวนผมพูดคุยเรื่องต่างๆ
สนุกสนานเฮฮาไปตลอดทาง ผิดกับแว็บแรกที่เห็นผมนึกว่ามันจะไม่ค่อยพูดดูเงียบๆ หยิ่งๆ แต่ที่ไหนได้ไอ้เล็กมันไม่ต่างอะไรกับวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปเช่นกัน
หลังจากวิ่งเสร็จไอ้เล็กมานั่งคุยกับผมที่บ้านแล้วเล่าเรื่องอดีตให้ผมฟังตั้งแต่จำความได้จนมาเจอกับครูแสนเมื่อ 3 ปีก่อนที่ชายแดนไทยพม่า
ผมกับมันมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกันคืออยากจะชินชากับการสูญเสียคนที่รู้จักแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ....เพราะยังไงเราก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนนึงที่ถือปืน
อยู่ดีๆ ผมกับไอ้เล็กต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบไม่พูดไม่จาอะไรไอ้เล็กมองหน้าผมเป็นพักๆ ส่วนผมหยิบรีโมตเปิดดูหนังเพื่อไม่ให้ดูเงียบเกินไป
ไอ้เล็ก - "พรุ่งนี้ไปทำบุญกัน" 
ผม - "หึ กูถูกครูจำกัดบริเวณจะไปไหนได้"
ไอ้เล็ก - "ไม่เป็นไรเด๋วขอให้"
ผม - "ขอบใจแต่ไม่ต้อง"
ไอ้เล็ก - "ถือว่าทำบุญรับน้องใหม่"
ผม - "ทำไปมันก็ไม่ได้ช่วยอายุยืนขึ้นหรอกนะ"
ไอ้เล็ก - "อยากทำให้แจ๊คมันน่ะ .....ในฐานนะคนที่มาแทนมัน"
ผม - "ไม่มีใครแทนมันได้ ไม่ว่าจะมึงหรือใครก็ตามที่ครูแกหามา"
ไอ้เล็ก - " .....โทษที ทั้งๆ ที่กูเป็นคนพูดเองว่าไม่ได้มาแทนใคร แค่ไม่อยากเห็นมึงนอนฝันร้ายจมปลักอยู่กับอดีตแล้วโทษตัวเองก็เท่านั้น"
ไอ้เล็ก - "ที่ห้องพยาบาล ....กูเห็นมึงละเมอถึงคนชื่อแจ๊คดังลั่น กูพอจะเดาออกว่ามึงรักมันขนาดไหนในฐานะเพื่อนสนิท แต่ว่ามันตายไปแล้ว มึงควร...."
ผม - "กูลืมมันไม่ได้หรอก .....ถ้ามึงพูดเรื่องนี้อีกทีคราวนี้กูไม่ต่อให้แน่" ผมถีบโต๊ะกลางชุดรับแขกใส่ไอ้เล็กแต่มันเอาตีนขึ้นมายันไว้ได้
ไอ้เล็ก - "ใจร้อนวู่วามปากดีขี้โมโหขี้งอนอย่างที่ครูว่าไม่มีผิด นี่แหละมั้งสาเหตุที่ทำให้แจ๊คมันตาย"  ผมเอารีโมตปาใส่หน้าไอ้เล็กแต่มันรับได้ทัน
ไอ้เล็ก - "ที่แจ๊คมันตายเพราะมึงกูไม่แปลกใจแล้วล่ะ ....อ่อนหัด" ผมลุกขึ้นคว้าแจกันที่กลางโต๊ะพุ่งเข้าหาไอ้เล็กจับคอเสื้อแล้วฟาดแจกันเข้าหัวมันเต็มๆ
จนตัวแจกันและดอกกุหลาบที่ไอ้ซันลูกน้องผมเอามาใส่ให้กระจุยเป็นเสี่ยง ไอ้เล็กไม่ได้มีอาการปัดป้องหรือหลบหลีกแม้แต่น้อยเลือดเลยไหลเต็มหน้าเต็มหัว
ไอ้เล็ก - "ต่อซิ ....เอาให้พอใจ เอาให้สะใจ แค่นี้มันจิ๊บๆ ว่ะ ถ้าเทียบกับสิ่งที่มึงแบกรับอย่างไม่เต็มใจเรื่องไอ้แจ๊ค ....ต่อซิ ไอ้อ่อน หรือไม่กล้า ?"
ผมน้ำตาคลอเบ้าเลือดขึ้นหน้าแบบสุดๆ มือกำเศษแจกันแน่นเหวี่ยงเข้าหน้าไอ้เล็กอย่างลืมตัว ไอ้เล็กเอามือปัดบิดแขนดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น
ไอ้เล็ก - "กูไม่ได้มาที่นี่เพื่อชวนมึงทะเลาะ กูไม่ได้มาที่นี่เพื่อแทนใคร กูมาที่นี่เพื่อช่วยพวกมึง" เลือดที่หัวไอ้เล็กไหลลงหน้าผมทำให้คิดถึงตอนที่ไอ้แจ๊คตาย
ผมปล่อยโฮออกมาแบบสุดๆ ในอ้อมอกไอ้เล็ก รู้สึกลึกๆ เหมือนได้กอดไอ้แจ๊คอีกครั้ง ( เพราะรูปร่างมันคล้ายๆ กัน สูงใหญ่ 180 ต้นๆ )
ไอ้เล็ก - "กูขอสาบานด้วยเลือดที่ไหลรินลงบนหน้ามึง ......กูจะทำหน้าที่ในฐานะเพื่อนร่วมทีมให้ดีที่สุดไม่แพ้ไอ้แจ๊ค จะร่วมเป็นร่วมตายจนวินาทีสุดท้าย"
ภาพในอดีตของพวกผม 4 คนผ่านเข้ามาในหัวอย่างมากมายอีกครั้ง รวมทั้งตอนที่พวกผม 4 ดื่มน้ำสาบานว่าจะร่วมเป็นร่วมตายกันจนวินาทีสุดท้าย
ไอ้เล็ก - "ร้องซะให้พอ แล้วลุกขึ้นมาสู้กันใหม่นะ" คำนี้เป็นคำพูดที่ครูแสนปลอบผมในวันที่ไอ้แจ๊คตาย ...รู้สึกเหมือนครูอยู่ด้วยใกล้ๆ ก็ไม่ผิด
วันอังคารที่ 7 กรกฏาคม 2009  
ช่วงบ่ายครูแสนนึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้ให้ผมกลับบ้านไปเวียนเทียนได้ ....แต่ต้องเอาไอ้เล็กติดสอยห้อยตามไปด้วยไม่งั้นไม่ต้องไป -*-
ส่วนไอ้สู้กลับบ้านไปเวียนเทียนกับครอบครัว ผมไปเวียนเทียนที่วัดแห่งในจังหวัดนนท์ ( ใกล้ๆ กับท่าน้ำนนท์ ....วัดไรหว่า ? 555 )
ที่ที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในสมัยเรียนมัธยมของผมจะไปเวียนเทียนที่นั่นกันทุกปี ขณะที่พวกผมนั่งรอเวียนเทียนกับคนอื่นๆ 
ผมเห็นมอไซต์ Mio สีแดงคนขี่หน้าตาคุ้นๆ มาจอดข้างรถผม
ผม - "ไอ้ที!!! ทางนี้ๆ" เด็กหนุ่มหน้าตาดีสูงขาววัย 20 ต้นๆ ถอดหมวกกันน็อคและเสื้อแจ็คเก็ตเดินมาไหว้ผมอย่างนอบน้อม
ไอ้ที - "หวัดดีพี่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เป็นไงมั่ง ? ไอ้สัด ...เทิบไป กูจะนั่งกับพี่กู" ไอ้ทีผลักเพื่อนมันที่นั่งข้างผมออกไปแล้วนั่งแทนที่
ผม - "กูน่ะสบายดีแล้วมึงล่ะ ? หายหัวไปไหนมาวะ ? เกือบ 8 ปีเลยนะมึง .....นี่เพื่อนพี่ ชื่อ อเล็กซ์ เรียกมัน เล็ก เฉยๆ ก็ได้" 
ผมกับไอ้ทีเคยเรียนที่เดียวกันและอยู่วงโยฯ มาด้วยกัน ตอนนี้มันทั้งเรียนและเล่นดนตรีที่โรงแรมแห่งนึงในภูเก็ตส่งเสียตัวเองเรียน นานๆ ทีจะกลับนนท์
ผม - "แม่งตัวสูงขึ้นเยอะเลยว่ะ แต่ก่อนตัวเท่าลูกหมากูจับเหวี่ยงได้สบาย เออ ยังนอนฉี่รดที่นอนอยู่ป่าววะ ?" ผมทักทายเล่นหัวกับมันด้วยความสนิทสนม
เพราะรู้จักกันมานานตั้งแต่มันอยู่ประถม พี่ชายมันชื่อ "พี่ธน" เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพี่เอ ช่วงเสาร์อาทิตย์จะไปเตะบอลด้วยกันบ่อยๆ เลยสนิทกัน
??? - "
เด๋วนี้มันไม่ฉี่รดที่นอนละ มันฝันเปียกแทนเพราะไม่ค่อยชักว่าว 555" เพื่อนผมคนนึง ชื่อ "เลิศ" พูดแซวไอ้ทีจนคนอื่นฮาตรึม
ไอ้ที - "โหพี่ นั่นตั้งกี่ปีมาแล้วล่ะ เจอกันครั้งล่าสุดตอนพี่จบ ม.6 ส่วนผมอยู่แค่ ม.3 เอง ดูๆ ผมสูงกว่าพี่แล้วนะ" ไอ้ทียืนขึ้นจะให้ผมวัดความสูงกับมัน
ผมกับเพื่อนๆ และรุ่นน้องคุยกันสนุกสนานเฮฮาจนถึงเวลาเวียนเทียน บุญคงไม่ได้สักเท่าไรเพราะทั้งแซวสาวทั้งแกล้งกัน ฮากันตลอดจนครบ 3 รอบ -*-a
พอเวียนเทียนเสร็จรุ่นน้องผมมีงานต้องไปเล่นดนตรีที่ร้านอาหารแห่งนึงแถวนวมินทร์ พวกผมเลยไปกินข้าวพร้อมกันที่ร้านนั้นเพื่อดูมันเล่นดนตรี
ไอ้ทีถูกเพื่อนมันลากขึ้นไปร่วมวงด้วยอีกคน เล่นไปได้สักพักมีคุณยายท่านนึงขอเพลงไทยเดิมฟังสบายๆ พวกมันเลยคิดหนักแล้วมองมาทางผมกับเพื่อน
ไอ้เลิศ - "ในรถกูมีโน๊ตเพลง "คำหวาน" ซอไม่มีมีแต่ไวโอลินของแฟนกู พวกมึงจะเล่นกันมั้ยล่ะ ?" ไอ้ทีกลับมาพร้อมกับโน๊ตและไวโอลินของแฟนไอ้เลิศ
เพราะพวกมันแท้ๆ ผมเลยถูกรับเชิญจากเจ้าของร้านให้ขึ้นไปเล่นด้วย >< ผมต้องทำความเข้าใจกับโน๊ตอยู่พักนึงเพราะไม่ได้เล่นมานานมาก ( งงๆ เบลอๆ )
ผม - "ไอ้ทีๆ พี่ขอเล่นเปียร์โนแล้วกันว่ะ ไวโอลินไม่ได้เล่นมานาน นิ้วแม่งเบลอไปหมดละ เปลี่ยนๆ" เรื่องของเรื่องเปียร์โนมันง่ายกว่าน่ะ 5555
พอถึงตอนเล่นไอ้ทียืนสีไวโอลินต่อหน้าผมที่นั่งเล่นเปียร์โน ด้วยเนื้อหาของโน๊ตเพลงทั้งสีหน้าและอารมณ์ของไอ้ทีทำให้ผมเคลิ้มไปพักใหญ่ 55555
ช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 1 นาทีกว่าๆ ทำเอาผู้ชมนั่งเงียบสะกดคนทั้งร้านอาหารเสียงปรบมือดังก้องทั่วบริเวณ ....อายเพราะไม่ได้เล่นตั้งนาน ><
พอลงมาจากเวทีแฟนของไอ้เลิศก็แซวไอ้ทีว่าสีไวโอลินได้หวานซะจนทำผมเคลิ้มนั่งเล่นเปียร์โนหน้าแดงลงมาก็ยังไม่หายแดง ....มันก็จริงน่ะแหละ 555
ผม - "เข้าพรรษากูว่าจะไม่แดกเหล้าแดกเบียร์แล้วนะ -*-" พวกเพื่อนๆ น้องๆ ผมสั่งเบียร์มากินกันฉลองเนื่องในวันห่าไรแม่งไม่รู้ ไม่กินไม่ได้ด้วยซิ
เพราะมันยึดกุญแจรถผมไปแล้วด้วย ไม่เมาไม่คืนไม่ต้องกลับ .....ซวยเลยกู -*- ไอ้ห่าเล็กก็เสือกแดกซะจนเมาเดินเป็นปู คนที่เหลือก็ไม่ต่างกันสักเท่าไร
ไอ้ที - "กลับไม่ไหวก็นอนห้องผมดิพี่" ไอ้ทีเสนอตัวเสนอห้องให้ผมไปนอนค้างที่ห้องมันแถวๆ เกษตร
ผม - "ไหวๆๆ ยังไหวอยู่ สบายๆ" ผมเลยลุกให้คนอื่นดูว่ายังไหวอยู่ แต่เป๋ครับ เป๋นิดๆ >< คนอื่นๆ เลยบอกให้ผมไปนอนที่ห้องไอ้ทีเพราะคงขับกลับไม่ไหว
สุดท้ายผมต้องไปนอนห้องไอ้ทีจริงๆ น่ะแหละ 555 ไอ้ทีขับผมหลับอยู่เบาะหน้า ส่วนไอ้เล็กนอนสลบอยู่เบาะหลัง ( ไอ้เล็กค่อนข้างคออ่อนมาก -*-a )
ไอ้ทีพยุงไอ้เล็กขึ้นไปนอนที่โซฟาเผื่อมันอ้วก ส่วนผมเดินเซๆ ไปนอนที่โซฟาเหมือนกันแต่ไอ้ทีพยุงไปนอนที่เตียง ผมรู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปคืนนี้ -*-a
แล้วก็จริง ไอ้ทีถอดเสื้อเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ผมแต่ไม่ให้มันถอดกางเกงยีนส์ออกเพราะไม่ได้ใส่บ็อกเซอร์มามีแต่กางเกงใน -*-
ไอ้ทีเห็นว่าผมไม่ได้เมาอะไรมากมายแค่มึนๆ เลยชวนผมคุยไปเรื่อยเปื่อย จนวกมาเรื่องอดีตตอนเข้าค่ายวงโยฯ ที่แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน
ผม - "เล็ก ....สั้น .... 55555"
ไอ้ที - "โธ่ พี่ นั่นมันตอน ม.1 เด๋วนี้ 7 นิ้วกว่าแล้วคร๊าบบบบ หมอนวดถึงกับสะดุ้ง"
ผม - "ไหนๆ เอามาดูเด๊ะ" ผมพูดเล่นด้วยความมึนๆ แต่มันเอาจริง ไอ้ทีดึงกางเกงขาสั้นลงโชว์ควยที่เกือบแข็งให้ผมดูอย่างไม่อาย ผมยิ้มไม่พูดอะไรหลับต่อ
แต่ในใจคิดอะไรไรไปไหนต่อไหนแล้ว 5555 ไอ้ทีชวนผมคุยต่อถึงตอนไปเล่นดนตรีที่ภูเก็ตว่าสาวแจ่มแหม่มน่าเอาขนาดไหน จนควยผมเริ่มแข็งขึ้นๆ
ผม - "พอๆ ควยจะแข็งแล้วห่า เด๋วนอนไม่หลับ ยิ่งเบลอๆ อยู่" ไอ้ทีหัวเราะเอามือมาจับเป้าผมที่เริ่มแข็ง ผมตกใจนิดๆ เพราะเคลิ้มเกือบหลับไป
ไอ้ที - "ตกใจซะงั้นน่ะ ของเคยๆ น่ะพี่ 555" ผมหันมายิ้มเขกหัวมันไปทีนึงแก้เขิน ไอ้ทีก็จับต่อจนมันแข็งเต็มที่แน่นไปหมดอยู่ในกางเกงยีนส์
แต่ก่อนไอ้ทีเคยแอบเอาหนังโป๊ของพี่มันมาดูกับผมแล้วชักว่าวด้วยกัน คืนนี้มันคงจะย้อนรอยแบบตอนนั้น -*-a
ผมนอนนิ่งไม่ขัดขืนอะไรมันเลยปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงยีนส์ผมลงเอามือล้วงเข้าไปจับควยแข็งโด่ที่นอกกางเกงในของผมเล่นอย่างมันส์มือ
ไอ้ผมที่มึนๆ เบลอๆ เพราะฤทธิ์เบียร์ร่วม 2 ลังกับเหล้าอีก 2 กลมเลยเอามือไปจับของมันมั่ง ควยไอ้ทีแข็งโด่ในกางเกงขาสั้นขนาดคงประมาณ 6 - 7"
ไอ้ทีดึงกางเกงในผมลงผมก็ดึงกางเกงขาสั้นและกางเกงในมันลงเช่นกัน ไอ้ทีกำควยผมแล้วชักว่าวให้อย่างเน้นๆ รูดขึ้นสุดลงสุดจนเสียวหัว
ผม - "ทีเว้ย .....เสียวเว้ย เบาๆ" ไอ้ทีไม่สนใจกับคำขอของผม ตั้งหน้าตั้งตาทำให้ผมเสียวอย่างต่อเนื่องด้วยการเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ
ผมเลยเร่งจังหวะให้มันมั่ง ทั้งเน้นทั้งเร็วจนไอ้ทีหายใจแรงฟืดฟาดครางในลำคอนิดๆ หน้าเริ่มมาซบที่ไหล่ผม
ผม - "อย่าไซร้คอนะเฮ๊ย มันเสียว" ไอ้ทีหัวเราะแหะๆ เอาหน้าซบไหล่ผมต่อ ไอ้ทีเคยตีสแนร์มาก่อนข้อมือเลยดีพอชักว่าวให้ผมเลยมันส์แบบสุดๆ 555
ไอ้ทีนอนตะแคงซ้ายชักว่าวให้ผมเร็วมากทั้งยังต่อเนื่องแบบไม่หยุดจนเมือกผมไหลเยิ้มลงเต็มมือของมัน ทั้งลื่นทั้งเสียวจนผมเกร็งไปทั้งตัว
ส่วนหัวควยของไอ้ทีก็มีเมือกเยิ้มออกมาเหมือนกันแต่ไม่มากเท่าผม ผมเอานิ้วโป้งคลึงตรงส่วนหัวที่เปียกเยิ้มของมันเล่นจนไอ้ทีสะดุ้งเกร็งด้วยความเสียว
ไอ้ที - "ซี๊ดดดดด พี่ ......เสียววววววว" ไอ้ทีขยับตัวออกหนีมือผมไปหน่อยนึง ผมเลยหัวเราะแกล้งศอกเข้าคางมันแล้วพูดว่า "ของเคยๆ ทำเป็นดิ้น" 555
ไอ้ทีลุกขึ้นนั่งข้างผมแล้วรัวมือขวาที่ชักว่าวให้ผมอย่างเต็มที่ทั้งเน้นทั้งเร็ว จนในที่สุดผมก็แตกคามือมันเพราะความเสียว
ไอ้ทีจัดการเอาผ้าขนหนูที่เช็ดตัวผมไปก่อนหน้านี้มาจัดการเช็ดคราบให้ผมจนสะอาด ผมได้ทีตอนมันกำลังเอนตัวนอนคว้าตัวมันมากอดไซร้คอจากข้างหลัง
มือสาวว่าวให้มันมั่ง ไอ้ทีถึงกับหายใจแรงครางในลำคอซี๊ดปากเล็กๆ ขนลุกและสั่นไปทั้งตัว ทั้งแขนทั้งขาเกร็งเหยียดตึง ผมเลยดูดไซร้คอมันแรงขึ้น
ส่วนมือก็ชักว่าวให้มันถี่ๆ เน้นๆ สลับกับเล่นหัวที่เปียกเยิ้มเป็นพักๆ จนมันร้องครางออกมาอย่างลืมตัว
ไอ้ที - "อ้าาาาาา อืออออ พี่ ......เสียวววววว่ะ ซี๊ดดดดดด ไม่ได้เอาหญิงมาเกือบเดือน ซี๊ดดดด ไม่ไหวละ" ไอ้ทีซี๊ดปากครางอู้อี้ๆ เกร็งตัวสั่นไปมา
ผมพลิกตัวมันนอนหงายแล้วก้มลงไปไซร้คอมันเต็มที่ทั้งซ้ายและขวาส่วนมือก็ยังสาวว่าวให้มันอย่างเมามันส์จนไอ้ทีเกร็งแล้วเกร็งอีกหายใจแรงฟืดฟาดๆ
สักพักควยไอ้ทีกระตุก 2-3 ทีร้องอ้าาาาา ก่อนจะปล่อยน้ำออกมาเยอะแยะเต็มมือเต็มหน้าท้องของมันเอง ไอ้ทีนอนหายใจหอบแห่กๆ เช็ดคราบออกจนหมด
แล้วนอนกอดผมคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ถามถึงสถานการณ์ที่ใต้ ผมก็เล่าให้มันฟังจนมันหลับปุ๋ยไป ผมหลับไปได้สักพักก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงอ้วกของไอ้เล็ก
ผม - "รู้ว่าคออ่อนเสือกแดกซะเยอะเลย เอ้า ผ้าเย็น" ผมโยนผ้าเย็นให้ไอ้เล็กยืนมองมันอ้วก แล้วผมก็เข้าไปลูบหลังไล่อ้วกให้มัน
ไอ้เล็ก - "ทรมานชิบหายเลย .....โอ้กกกกกกกก ( พรวดดดด .......แหวะ เห็นภาพ >< ) .....มึนหัวว่ะ" ไอ้เล็กเอาสองมือกุมหัวนั่งอึน
ผม - ".....ไหนดูแผลหน่อย .....ตอนนั้นทำไมถึงไม่หลบ ?" ผมเปิดไฟเดินหาชุดปฐมพบาลมาทำแผลให้มัน
ไอ้เล็ก - "ถ้าหลบผลมันก็ไม่ออกมาแบบนี้ดิ ...เบาๆ โอ๊ย ...อย่างน้อยก็ซื้อใจมึงมาได้อีกหน่อย" ผมเอาแอลกอฮอลล์ราดแผลที่หน้าผากจนไอ้เล็กร้องเสียงหลง
ผม - "มันสำคัญกับมึงมากขนาดนั้นเลยรึไงไอ้งานแบบนี้ ? เจ็บเพื่อคนอื่นตายเพื่อคนอื่น ถูกสาปแช่งต่อว่าถูกด่าสาระพัด"
ไอ้เล็ก - "ซี๊ดดดดด แสบชิบหาย ......ไม่รู้ซิ แล้วมึงล่ะทำไมไม่เลิกสักที ? ทนเพื่อใคร ?"
ผม - "เพื่อตัวกูเอง ถ้ากูไม่ทนทำต่อก็เท่ากับว่ากูทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่อุตส่าห์กัดฟันทำมาด้วยกันน่ะซิ ไอ้พวกที่ตายห่าไปคงเสียใจน่าดู"
ไอ้เล็ก - ".....เหลืออีกกี่คน ?"
ผม - ".....ก็เยอะอยู่ ประมาณ 6-7 คนมั้ง ไม่รู้ซิ จะมีอีกกี่คนกูก็จะยิงทิ้งให้เรียบ"
ไอ้เล็ก - "ถ้าเก็บพวกมันได้หมดทุกตัว มึงจะเลิกมั้ย ?"
ผม - "ถ้าไม่ตายห่าซะก่อนกูคงเลิก เพราะไม่มีเหตุผลที่จะหันปืนใส่ใครหรือยิงใครอีก"
ไอ้เล็ก - "มึงไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่มึงทำเพื่อไอ้แจ๊ค .....มึงล้างแค้นเพื่อมันและคนอื่นๆ ที่ตายไปต่างหากล่ะ" ไอ้เล็กขยับตัวหนีเหมือนกลัวว่าจะโดนอะไรอีก
ผม - " .....คงใช่ แต่ถ้าไม่ทำใจกูคงไม่สงบ ไอ้พวกเหี้ยนั่นมันต้องได้รับโทษ คือตายสถานเดียว ....เสร็จละ ไปนอนได้แล้วมึงน่ะ เมาแล้วพูดมาก"
ไอ้เล็ก - "เหมือนมึงเลย ถ้าไม่เมามึงคงไม่หลุดปากพูดหรอกเรื่องแบบนี้หรอก 55555" ผมยิ้มแล้วถีบไอ้เล็กไปทีนึงก่อนไปนอน
ไอ้เล็ก - "น็อต ......ฝันดีล่ะ อย่าฝันร้ายอีกนะ" ผมไม่พูดอะไรหันมายิ้มให้แต่ไอ้เล็กคงไม่เห็นเพราะปิดไฟมืด
*******************
BY :  XIII Post : 2009-07-19

No comments:

Post a Comment