Saturday, 15 January 2011

บทที่ 48 " Track Him Down "

ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อนช่วงกลางเดือนธันวาคม 2009 .....
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2009 เวลาประมาณ 0335 am ณ ชุมชนแออัดแห่งนึงในปัตตานี
ผม - "ครับ ....แหะๆ ช่วงนี้ก็เรื่อยๆ สบายๆ น่ะครับหลวงพี่ ....โอ๊ยยยย สบมยห ครับ หลวงพี่บอกเองว่าคนอย่างผมตายยากนี่ครับ 
เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ .....อานะ 555 ....ครับๆ สวัสดีครับ"
ผมรีบกดวางสายจากหลวงพี่ลักษณ์แล้วส่งให้บุตรก่อนจะเข้าไปดูต้นเหตุของเสียงกระจกแตกและข้าวของแตกกระจาย
ผม - "เบามือหน่อยฟาดีน เด๋วมันจะตายซะก่อน" ลูกน้องของผมกำลังซ้อมชายคนนึงจนกระเด็นไปติดกับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ฟาดีน - "ครับหมวด ....$%$@#!&#*^@%??? ( มึงจะบอกไม่บอก ??? )....!@#^%%$#@)!|$+ ( ปากแข็งนักนะมึง )" ฟาดีนกระหน่ำมือตีนใส่เป็นชุด
??? - "^$%#$@%#^$%!*$#@!"
ชายคนนั้นตะคอกภาษายาวีใส่ฟาดีนแล้วหันมาถุยน้ำลายใส่เท้าผม
ผม - "เฮ้อ สงสัยต้องเล่นบทโหดแล้วล่ะมั้ง" ผมดึงคอเสื้อชายคนนั้นขึ้นแล้วต่อยท้องต่อยหน้าไปอีก 4 หมัดจนล้มลงไปนั่งแล้วเอาเท้าถีบหน้ามันไปอีกที
ผม - "ฟาดีน บอกมันนะ ....เด๋วกูจะถามคำถามมึงแค่ไม่กี่ข้อแล้วก็จะปล่อยมึงไป แต่ถ้ากูไม่ได้คำตอบที่ต้องการ .....กูจะเฉือนนิ้วมึงออกทีละนิ้ว" 
ผมหยิบมีดออกมาถือแล้วชี้ไปที่นิ้วมือข้างขวาของมัน ในที่สุดชายวัยกลางคนรูปร่างหน้าตาผอมกะหร่องก็ยอมบอกในสิ่งที่ผมต้องการรู้จนเกือบหมด
ผม - "....คำถามสุดท้าย ....คนกลางที่เป็นทหารไทยมันชื่ออะไร ? แล้วมันอยู่ที่ไหน ?" ชายคนนั้นทำหน้าตาลอกแล่กไม่ยอมตอบอยู่นาน ผมเลยเอามีดแทงไปที่
ต้นขาซ้ายของมันจนมิดด้าม ชายคนนั้นร้องลั่นห้องเป็นภาษายาวีพลางจับมือผมแน่นด้วยความเจ็บปวด ไอ้สู้ทำท่าเหมือนจะเข้ามาห้ามผมแต่นิโอ๊ะขวางเอาไว้
ผม - "กูต้องการชื่อมัน ไม่ใช่เสียงร้องของมึง ....ตอบช้าเด๋วโดนอีกข้างนะ" ฟาดีนยืนแปลเป็นภาษายาวีให้ชายคนนั้นเข้าใจทุกถ่อยคำที่ผมพูดออกไป
??? - "$%^@!*&$#!+|@%$&!* .....+|!@%#$!*^&%^$#@ .....%^&|+_)@#%@ .....#$%!&|_+@%%$#@@"
ฟาดีน - "มันไม่รู้จักชื่อครับหมวด รู้แค่ว่าเป็นทหารค่อนข้างมียศ ....ระดับผู้พัน ได้ข่าวว่าอยู่แถวๆ โกลก"
ผม - ".....บุตร ติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราในโกลกให้เตรียมพร้อมเอาไว้ พรุ่งนี้เช้าเราจะเข้าไป"
ไอ้สู้ - "ไม่คิดว่าทำเกินเหตุไปหน่อยหรือวะ ?" ไอ้สู้เปิดประตูเข้าไปแก้เชือกให้ 2 แม่ลูกที่อยู่อีกห้อง ส่วนนิโอ๊ะก็เดินเข้าไปดูบาดแผลของชายคนนั้นทันที
ผม - " ....มันสมเหตุสมผลที่สุดแล้วล่ะสู้"
ไอ้สู้ - "กูว่ามึงใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลแล้วว่ะ" ผมไม่พูดอะไรได้แต่เดินเข้าไปหา 2 แม่ลูกนั่นแล้วถอดโม่งสีดำออกก่อนจะหันไปเรียกฟาดีน
ผม - "ไอ้หนุ่ม ....เด๋วพี่จะไปโกลก ....ถ้าอยากแก้แค้นให้พ่อเอ็งล่ะก็ ....ได้ทุกเมื่อนะ ....นี่ที่อยู่ ....ขอโทษด้วย" ฟาดีนยืนแปลด้วยอาการงงๆ เหวอๆ
??? - "
หาเรื่องชัดๆ เลยนะครับหมวด" ลูกน้องที่ยืนเฝ้าในห้องของ 2 แม่ลูกนั่นบอกด้วยความเป็นห่วง
ผม - "ไม่เป็นไรหรอกอาบีดีน ....ทีเรายังมีสิทธิ์ที่จะล้างแค้นได้ แล้วทำไมเค้าจะมีบ้างไม่ได้ล่ะ ....จริงมะ ?"
อาบีดีน - "ก็จริงครับ แต่ถ้าเป็นผมผมจะไม่เสนอตัวให้มันมายิงผมแน่"
ผม - "เหอะๆ ถ้ายิงก็ดีซิน่ะซิ กลัวจะเป็นระเบิดมากกว่าว่ะ ....ทางสะดวกมั้ยเล็ก ? ....โอเค อีก 40 วิจะถอนกำลัง" ผมหันกลับไปยกมือไหว้ 2 แม่ลูกนั่น
แล้วใส่โม่งก่อนจะส่งสัญญาณมือให้ถอนกำลัง เมื่อออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ไม่นานก็เกิดเสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่ตามด้วยเปลวไฟที่กำลังแผดเผาบ้านหลังนั้น
ผมหันไปเห็นตู้โทรศัพท์สาธารณะเลยกด 191 แจ้งความก่อนจะเปลี่ยนชุดแล้วแยกย้ายกันสลายตัว
เช้าวันต่อมา ณ 7-11 แห่งนึงในตัวเมืองปัตตานี
ผม - "คิดถูกที่มานั่งรอตรงนี้ ไม่งั้นหิวตายแน่" ผมนั่งกินขนมกินนมอยู่ตรงหน้า 7-11 ที่มีทหารของหน่วยนึงยืนเฝ้าอยู่ไม่ไกล
ทัก - "โทษทีๆ เมื่อเช้าสารวัตรแกนัดประชุมฉุกเฉินน่ะ ...กินไรมายัง ?" ทักลงรถเดินมาหาผมในชุดวอร์มสีน้ำเงินแดง 
ผมดึงหลอดออกจากกล่องนมแล้วทิ้งลงพื้นเป็นสัญญาณบอกให้ฟาดีนและอาบีดีนออกมาขึ้นรถได้ ( ทหารตรงนั้นมองพวกผมตลอดตั้งแต่มาเลยต้องแยกกัน )
ระหว่างทางผมแนะนำทักให้รู้จักกับฟาดีนและอาบีดีนลูกน้องคนสำคัญที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายครั้งที่ 3 จชต.
ทัก - "ไอ้สู้ไปไหนล่ะ ? ไม่มาด้วยรึไง"
ผม - "ไม่รู้แม่งมัน เห็นบอกจะไปไหนไม่รู้"
ทัก - "กัดกันอีกแล้วเด่ะ" เหอะๆ จริงอย่างที่ทักว่าน่ะแหละ ก่อนแยกย้ายกันผมเถียงกับไอ้สู้จนผมไม่กลับพร้อมมันเลยให้ทักมารับแทน
ทัก - "....ทักว่า เมื่อคืนน็อตเล่นแรงไปหน่อยรึป่าว ? ไม่โหดไปหน่อยหรอที่เผายกครอบครัวแบบนั้น"
ผม - "เฮ๊ยๆ เรื่องเผาบ้านน่ะข้าไม่เกี่ยวนะ ไม่เชื่อถามไอ้ 2 ตัวนี้ได้" ผมชี้ไปหาฟาดีนและอาบีดีนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
ฟาดีน - "ใช่ครับ"
อาบีดีน - "สงสัยโดนตัดตอน"
ผม - "ไม่ต้องสงสัยหรอก ตัดตอนชัดๆ ....แถมคนใกล้ตัวซะด้วย"
ทัก - "งั้นพวกน็อตก็ต้องระวังกันให้มากขึ้นแล้วล่ะ เพราะ ......" ตูมมมมมมมม !!! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ใกล้ๆ จนหูผมแทบหนวกในทันที 
พอลืมตามาอีกทีตัวผมก็อยู่ในรถตำรวจยี่ห้อ Vigo ในสภาพคว่ำไปข้างหน้า ทุกอย่างเบลอไปหมดเสียงวี้ๆ ในหูดังอย่างต่อเนื่องจนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
ผมหันไปหาทักที่อยู่ในสภาพแย่พอๆ กับผมแล้วดึงเสื้อเพื่อปลุกให้ทักรู้สึกตัวก่อนจะหันไปปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูรถทางฝั่งผมแต่ประตูมันติด
ผมเลยออกแรงถีบประตูเต็มทีจนเปิดได้ ผมหยิบปืนในกระเป๋าเป้แล้วค่อยๆ คลานออกมาอย่างทุลักทุเลพลางดึงทักออกมาจากรถพร้อมกับปืน HK33
โชคดีที่ทักเก็บคองอเข่าได้ทันก่อนที่รถจะพลิกคว่ำแล้วกระแทกพื้นอย่างแรงเลยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ( ความเสียหายอยู่ทางฝั่งคนขับมากกว่า )
เมื่อออกมาจากรถได้ผมพยายามตั้งสติกวาดสายตาไปรอบๆ ตามแนวป่าเผื่อมันซุ่มยิงอีกระรอก ผมตัดสินใจดึงตัวทักออกห่างจากรถไปหลบอยู่ในคูน้ำ
ผม - "ฟาดีนนนนนน ออกมาาาาาาาาา" ผมตะโกนเรียกฟาดีนให้ออกมาจากรถขณะที่มันกำลังพยายามออกมาจากรถอย่างทุลักทุเลไม่ต่างจากผมในตอนแรก
ฟาดีน - "อาบีดีนมันติดครับหมวด ผมเอามันออกมาไม่ได้" เมื่อทักได้สติก็รีบคว้าปืนกดโทรศัพท์โทรแจ้งเหตุทันที
ผม - "ไม่เป็นไร มึงออกมาก่อน" ฟาดีนพยายามดึงน้องชายตัวเองให้ออกมาจากรถ ผมตั้งสติอีกครั้งแล้วเข้าไปช่วยฟาดีนเพื่อดึงน้องชายมันออกมาให้เร็วที่สุด
เมื่อดึงอาบีดีนที่หมดสติออกมาได้ผมก็เข้าพยุงไหล่คนละข้างกับฟาดีนเพื่อเข้าไปหลบในคูน้ำข้างๆ
ฟาดีน - "หมวดระวัง!!!" ฟาดีนผลักผมตกคูน้ำทันทีอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ภาพที่ผมเห็นคือฟาดีนถูกยิงกลางหลังจนทะลุหน้าอก 2 นัดซ้อน
ผมหันไปเห็นชายใส่หมวกแก๊ปและเสื้อแขนสั้นสีดำกางเกงขายาวสีน้ำตาล ( คิดว่านะ ...เพราะเบลอไปหมด -*-a ) ในระยะไม่เกิน 100 เมตร
ทักโยนปืน HK33 ให้ผมทันทีก่อนจะขยับไปยิงล่อข้างต้นไม้เพื่อให้ผมจัดการมัน ด้วยความเบลอๆ + ปวดไปทั่วร่างกายทำให้ผมเล็งได้ไม่ถนัดจึงโดนแค่ไหล่
แล้วมันก็วิ่งหนีเข้าป่าไป ปล่อยให้พวกผมทั้ง 3 คนกับอีก 1 ร่างที่ไร้วิญญาณนอนรอความช่วยเหลือที่กำลังมาถึง
เวลาต่อมา ณ ที่เกิดเหตุ
ผม - "ไม่เป็นไร ....ไม่ต้อง ....บอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้องซิ" ผมปัดมือของเสนารักษ์ออกขณะที่เค้ากำลังพยายามจะทำแผลให้ก่อนจะเดินไปดูศพของฟาดีนที่กำลัง
จะเคลื่อนย้ายไปที่โรงพยาบาล ผมยืนมองศพฟาดีนจนน้ำตาคลอเบ้าแล้วเจ้าหน้าที่ก็หิ้วมันขึ้นรถไป
??? - "
เสียใจด้วยนะไอ้หนุ่ม ....ลูกน้องเอ็งอีกคนปลอดภัยดีแล้วล่ะ อีกสักพักคงได้สติ ....เสียใจด้วยว่ะ" ตำรวจวัยกลางคนเดินเข้ามาจับไหล่ปลอบใจผม
ผมยืนกำสร้อยของฟาดีนเอาไว้แน่นจนทักต้องมาจับมือเพื่อให้ผมคลายมือออก ในที่สุดผมก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวเมื่อทักโอบไหล่ผม
เวลาต่อมา ณ บ้านพักข้าราชการของทักในปัตตานี ( คนละที่กับที่ผมเคยไป )
ผม - "อืม .....ยังวิ่งได้อยู่ว่ะโทษที หุๆ .....โอเค เช่นกันนิโอ๊ะ .....บอกแม่งด้วยอย่าเพิ่งรีบตายก่อนกูล่ะ เด๋วไม่มีคนให้กูทะเลาะด้วย 555"
ทัก - "นิโอ๊ะหรอ ? ว่าไงมั่งล่ะ ?" ทักยกโจ๊กมาให้ผมขณะนั่งนวดยาที่ขาและแขน
ผม - "ขอบใจ .....มันก็สบายดี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคงต้องระวังตัวมากขึ้นอีกหลายๆ เท่า .....อูยยยย ร้อน"
ทัก - "ทำไรไม่ระวังเล๊ยยยย .....แล้วไอ้สู้ล่ะ ? อยู่กับนิโอ๊ะด้วยใช่มะ ?" ผมดึงกระดาษทิชชู่แล้วเช็ดโจ๊กที่หกเลอะขาผมให้
ผม - "ไม่ต้องๆ เด๋วเช็ดเอง .....อืม ก็อยู่ด้วยกันน่ะแหละ แต่ไม่รู้ไอ้เล็กไปไหนน่ะซิ แม่งไม่ได้ติดต่อตั้งแต่ ....แยก ....กัน ...."
ทัก - "เริ่มสงสัยพวกเดียวกันเองแล้วรึไง ?"
ผม - "....นิดหน่อย แต่คงไม่หรอก ถึงไอ้เล็กจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครแต่มันก็ไม่ใช่คนที่จะทำไรแบบนั้นหรอก .....มั้ง"
ทัก - "คิดมากน่า .....ไหนมาดูคอหน่อยดิ๊ เห็นว่าปวดคอ" ทักขยับมานั่งข้างหลังแล้วกดๆ นวดๆ ตามคอตามไหล่จนทั่ว
ผม - "อืมมมม ตรงนั้นแหละๆ .....อ้าาาาา ปวดจี๊ดเลย" ทักนวดจนผมเคลิ้มแทบหลับคาโซฟา
ทัก - "ขอบใจนะที่ช่วยทัก" ทักกอดผมแน่นจากด้านหลังแล้วเอาหน้าซบลงที่ไหล่ผมก่อนไซร้ลงมาที่คอผมทีละนิดๆ ทำเอาผมเคลิ้มจนเอนตัวพิงทัก
ทักดึงตัวผมขึ้นไปนอนพิงตัวมันแล้วดึงหน้าผมขึ้นไปจูบ สักพักผมพลิกตัวหันกลับไปดูดปากไซร้คอก่อนถอดเสื้อทักออกแล้วเลื่อนปากลงไปละเลงลิ้นที่
แผงอกของทักจนทั่ว ทักถอดเสื้อของผมออกบ้างแล้วกอดสลับกับลูบไล้ไปจนทั่วแผ่นหลังเลยลงไปจนถึงสะโพกของผม ผมทังจั๊กจี้ปนเสียวเลยเลื่อนตัว
ลงต่ำเพื่อหนีมือของทักที่ลูบไล้เค้นคลึงสะโพกของผมอย่างเมามันส์ตามจังหวะการละเลงลิ้นของผมที่ต้นคอและแผงหน้าอก
ผมลากปากละเลงลิ้นลงไปเรื่อยๆ ผ่านแผงอกอันแข็งแรงและหน้าท้องซิกแพ็คจนถึงขอบกางเกงผ้าร่มขาสั้นที่อัดแน่นไปด้วยลำท่อนขนาด 7" ของทัก
ที่หลบอยู่ข้างในที่กำลังตื่นตัวเต็มที่จนนูนเป็นลำยาวออกมาอย่างเห็นได้ชัด ผมก้มลงไปซุกไซร้ไล่ลิ้นอยู่ภายนอกจนทั่วทั้งลำท่อนที่ยาวถึง 7" และพวงไข่
ทักซี๊ดปากนิดๆ แล้วเกร็งช่วงล่างพลางเกาะขอบโซฟาเอาไว้แน่น ผมเลยดึงกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำตัวนั้นออกไปแล้วก้มหน้าลงไปซุกไซร้ไล่ลิ้นต่อ
จนทั่วบริเวณจุดยุทธศาสตร์ของทัก ไม่นานส่วนหัว .357 ของทักก็โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงในสีขาวยี่ห้อ Adder พร้อมด้วยเมือกใสจำนวนหนึ่ง
ที่ติดอยู่ตรงปากกระบอกของ .357 ของทัก ผมเลยดึงกางเกงในสีขาวตัวนั้นออกซะแล้วอ้าปากอมรูดดูดลำท่อนนั้นทันที
ทัก - "ซี๊ดดดด เสียวว่ะ .....เบาๆ ก่อน ....อ้าาาาา เด๋วแตก" ทักทั้งนอนเกร็งทั้งครางซี๊ดซ๊าดและแอ่นเอวสวนขึ้นมาเป็นพักๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเยียดขาพิงโซฟา
ผมอ้าปากอมรูดดูดลำท่อนของทักสลับกับซุกไซร้ไล่ลิ้นไปที่พวงไข่ของทักอยู่นานจนทักออกอาการทนไม่ไหวเลยดึงผมขึ้นไปนอนบนโซฟาแล้วดูดปาก
ละเลงลิ้นไปจนทั่วทั้งหน้าและต้นคอของผมอย่างได้อารมณ์ ทักค่อยๆ ดึงกางเกงวอร์มขายาวและกางเกงในผมออกจนลวยแต่เขือ ( เหลือแต่ ... 555 )
ทักไซร้คอและแผงอกผมจนทั่วก่อนจะจับขาผมยกขึ้นพาดบ่าส่วนอีกข้างก็แยกออกไปด้านข้างแล้วจับ .357 ของตัวเองค่อยๆ ยัดเข้ามา 
แต่ด้วยความฟืดจึงไม่ค่อยเข้า ถึงจะมีน้ำเมือกตรงส่วนหัวของ .357 ของทักที่ออกมามากมายก็ยังเข้าลำบากอยู่ดี ทักพยายามต่อจนมันเข้าไปได้แค่เพียงส่วนหัว
ผมเริ่มรู้สึกเจ็บเลยขยับเอวหนีแต่ทักก็ยังตามมาอย่างไม่ลดละความพยายาม พอผมร้องโอ๊ยทักจึงหยุดแล้วบอกขอโทษ ทักลุกขึ้นไปเอาโลชั่นมาทาจนทั่ว
แล้วเริ่มใหม่อีกครั้งอย่างเบาๆ พอเข้าไปได้สักครึ่งลำท่อน .357 ขนาด 7" ของทัก ทักก็ขยับท่าให้เข้าที่เข้าทางแล้วเริ่มซอยเอวเนิบๆ เป็นจังหวะแบบเน้นๆ
จน .357 ของทักเข้าไปมิดลำกล้อง ทักจับขาทั้งสองข้างของผมพาดบ่าแล้วโน้มตัวขึ้นมากระแทกเอวแบบถี่ยิบจนผมทนไม่ไหวต้องหลับตากอดหมอนแน่น
ยิ่งผมเกร็งมากเท่าไรทักก็ยิ่งกระแทกเร็วและรุนแรงมากกว่าขึ้นเท่านั้นทำให้ผมเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว พอทักก้มตัวลงมาดูดปากผมเลยกอดเอาไว้แน่น
ทักพลิกตัวผมในท่าตะแคงข้างซ้ายบนโซฟาสักพักก่อนจะเปลี่ยนเป็นท่าหมา ทักกระแทกเน้นๆ สลับเนิบๆ จากช้าไปเร็วจนหัวผมซุกลงไปที่หมอน
พอทักเริ่มอ่อนแรงจังหวะการกระแทกเริ่มซอร์ฟลงผมเลยสลับขึ้นข้างบนบ้าง ทักรั้งเอวผมเอาไว้แน่นแล้วกดให้กระแทกลงไปเพื่อสวนกับการกระแทกขึ้นมา
ของ .357 ของทักที่เด้งขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดในจังหวะเน้นๆ เนิบๆ สักพักทักก็ลุกขึ้นกอดผมแน่นพลางดูดปากไซร้คอแล้วเด้งเอวสวนขึ้นมาถี่ๆ
ทักจับผมในยืนในท่าก้มเก็บสบู่แล้วยืนรับการกระแทกของทักที่เร็วและเน้นๆ จนเกิดเสียงจากเนื้อกระทบกันดังตับๆๆ ทักดึงผมยืนขึ้นแล้วกระแทกเข้ามาถี่ๆ 
จนผมไม่ไหวด้วยความเสียวจากมือ ( ทักสาวว่าวให้ ) จากปาก ( ทักไซร้คอ ) และ .357 ของทักที่กระหน่ำอยู่ข้างหลังผมอย่างถี่ยิบ ในที่สุดผมก็เสร็จในท่านั้น
พอขาผมอ่อนแรงเริ่มทรุดทักเลยให้ผมนอนหงายบนโซฟาแล้วเริ่มต้นในท่าเบสิคอีกครั้งอย่างเนิบๆ แล้วก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ ทักเอาขาทั้งสองข้างของผมพาดบ่าแล้ว
นั่งยองๆ บนโซฟาแล้วกระแทกลงมาแบบเน้นๆ เร็วขึ้นๆๆ ดังตับๆๆ จนโซฟาขยับดังกึกๆ เสียงทักหายใจแรงฟืดฟาดสลับกับเสียงครางในลำคอดังขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ทันไรร่างกายและ .357 ของทักก็เริ่มกระตุกพร้อมกับเสียงครางยาวๆ ในลำคอก่อนจะปล่อยกระสุนออกมาหลายนัดเข้าร่างกายผม
ทักนอนทับกอดผมหายใจหอบแห่กๆ พอหายเหนื่อยก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวแล้วมานั่งเล่นเกมส์กัน ( ห่วงเกมส์มากกว่าเรื่องบนเตียง 555 )
เวลาต่อมา ณ โรงพยาบาลแห่งนึงในปัตตานี
ผม - "เฮ้ ตื่นแล้วหรอไอ้ขี้เซา"
อาบีดีน - "ผม ....หลับไปนานขนาดไหนครับหมวด ?"
ผม - "ก็เยอะอยู่นะ สัก 6 ชั่วโมงเห็นจะได้ โชคดีที่หัวไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไรมากมาย อีกสักพักก็กลับได้ละ"
อาบีดีน - "แล้วฟาดีนมันไปไหนละหมวด ? ตะกี้เห็นอยู่แว๊บๆ" สิ่งที่อาบีดีนพูดทำเอาผมและทักขนหัวลุกอึ้งจนพูดไรไม่ออก
ผม - "ฟาดีน ....พี่เอ็ง ....ตายตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วล่ะ ....เสียใจด้วย" ผมพูดออกไปแล้วกำมืออาบีดีนเอาไว้แน่น
อาบีดีน - "อะไรกันครับหมวด ตลกละๆ .....ตะกี้ตอนที่ผมหลับมันยังมายืนพล่ามอยู่ข้างๆ ผมเลย"
ผม - "จะพูดอีกครั้งนะ ....พี่เอ็งตายแล้ว" อาบีดีนสะบัดมือผมออกแล้วตีหน้าเหวอลนลาน
อาบีดีน - "ไม่จริง ...ไม่จริงอ่ะ ....หมวดพูดเล่นใช่มะ ? ....หมวดชอบแกล้งชอบอำผมอยู่บ่อยๆ นี่นา ....ไม่จริงใช่มั้ยหมวด ?" อาบีดีนก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้โฮ
ผม - "ที่มันต้องตายก็ .....เป็นความผิดของข้าเองแหละ .....แต่เอ็ง 2 คนเป็นลูกน้องไม่กี่คนที่ข้าไว้ใจมากที่สุด ....เพราะงั้นถ้ามีไร ...."
อาบีดีน - "ผมขออยู่คนเดียวสักแปปครับหมวด"
ผม - "อืม ได้ ....นี่ของพี่เอ็ง ข้าเก็บมาให้" ผมวางสร้อยคอของฟาดีนที่โต๊ะก่อนเดินออกไป
บุตร - "ผู้หมวดค่ะ อาบีดีนล่ะ" บุตรวิ่งกระหืดกระหอบมาหาผมขณะสวนกันที่หน้าห้อง พอบุตรเข้าไปก็กอดอาบีดีนร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ
ทั้งฟาดีนและอาบีดีนต่างแข่งกันจีบบุตรตั้งแต่สมัยก่อนตอนย้ายมาทำงานกับผมใหม่ๆ ต่างร่วมเป็นร่วมตายกันมาตลอดทำให้ 3 คนนี้รักกันมากอย่างกับพี่น้อง
ผมยืนมองด้วยความเศร้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมรู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอกแปลกๆ จนหายใจไม่ออกเลยยืนพิงประตู ทั้งทักและไอ้สู้ต่างเข้ามาจะช่วยพยุง
ผม - "ไม่ต้องมายุ่งกับกูไอ้สู้ ....มึงว่ากูทำตามอารมณ์ ไม่มีเหตุผล แล้วมึงดูนู่น ....แหกตาดูซะ ....แล้วอย่างนี้ ต้องใช้เหตุผล ....อย่างที่มึงว่าอีกหรอ" 
ผมหายใจไม่ออกตาเริ่มพร่ามัวขาอ่อนหมดแรง สิ่งที่ผมเห็นเป็นเพียงภาพลางๆ แล้วทุกอย่างก็ดับมืดสู่สีดำ
............
................
...................
......................
ผมหลับไปนานเท่าไรไม่รู้ พอลืมมาตามาก็เห็นครูแสนนั่งอยู่ที่ปลายเตียง
ผม - "ที่นี่ ....โรงพยาบาลหรอครู ?"
ครูแสน - "แน่นอน ก็มึงเล่นสลบล้มพับต่อหน้าคนตั้งมากมาย ถ้าไม่ไปโรงพยาบาลแล้วจะให้ไปที่ไหน ?" ครูแสนลุกขึ้นจากโซฟาแล้วมานั่งบนเตียงข้างๆ ผม
ผม - "...นรกล่ะมั้ง เพราะยังไงบนสวรรค์ก็ไม่มีคนรู้จักอยู่แล้วนี่"
ครูแสน - "ไม่ต้องลุกๆ นอนฟังอย่างเดียวพอ" ครูแสนกดหัวผมให้ลงนอนขณะที่ผมพยายามลุกขึ้นนั่ง
ครูแสนหยิบสมุดเล่มเล็กๆ ออกมาแล้วเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในงานสาย ว.5 ของหลายหน่วยที่เกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงที่หลินนำข้อมูลสำคัญออกมา
ครูแสน - "สรุป ....มึงโดนพวกมันหมายหัวแล้วล่ะ" ครูแสนปิดสมุดดังปั้บแล้วลุกขึ้นไปจุดบุหรี่นั่งดูดที่โซฟา
ผม - "หึ ไม่บอกก็รู้ เดาไม่ยาก ....แล้วค่าหัวผมเท่าไรหรอ ?"
ครูแสน - "3 แสน"
ผม - "น้อยจังแฮะ นึกว่าจะสัก 1 ล้าน" ผมหันไปเห็นปืนของผมที่วางอยู่บนโต๊ะเลยหยิบขึ้นมาเช็คดู
ครูแสน - "นั่นแค่ค่าหัวเพียวๆ นะ ยังไม่รวมข้อมูลที่มึงมีอยู่ในตอนนี้ ....รวมเบ็ดเสร็จทั้งกลุ่มมึงก็ ....7-8 แสนเห็นจะได้"
ผม - "ค่อยสมน้ำสมเนื้อหน่อย"
ครูแสน - "งั้นมึงรู้ใช่มั้ยว่าคนที่เกี่ยวข้องกับมึงจะเป็นยังไง ?" .....มึงไม่อยากให้คนรอบตัวต้องเป็นอะไรอยู่แล้วนี่ ....เพราะงั้นหนีไปซะ ....แล้วก็ ...."
ผม - "อ้อมเป็นคุ้งเป็นแคว ผมรู้ว่าครูจะพูดอะไร .....ครูอยู่ข้างไหนกันแน่ ???" ผมเล็งปืนหาครูแสนอย่างลังเลใจ แต่ครูแสนกลับนั่งนิ่งทำทีเป็นไม่สนใจ
ผม - ".....บุหรี่มันหนักมารึไงมือถึงสั่น ? .....ครูไม่เคยสอนหรือบอกให้ผมหนีปัญหา มีแต่ให้สู้สุดขาดใจดิ้น ....ครูเปลี่ยนไปนะ ....เพราะเงินหรืออำนาจล่ะ ?" 
ผมละสายตาจากครูแสนไปนิดเดียวก็พลาดโดนครูแสนโยนก้นบุหรี่ใส่หน้า ผมยกแขนขึ้นกันได้แต่ก็พลาดโดนปลดปืนบีบคอกดลงนอนกับเตียง
ครูแสน - "ถ้าเล็งปืนไปที่ใคร ...."
ผม - "....ก็อย่าลังเลที่จะยิง"
ครูแสน - "....แล้วทำไมถึงลังเล ?"
ผม - "เพราะผมเชื่อว่าครูของผมเป็นคนดี" ครูแสนปล่อยมือจากคอผมพอดีกับจังหวะที่นิโอ๊ะและทักเปิดประตูเข้ามา ครูแสนเดินสวน 2 คนนั้นแล้วหยุดอยู่
ที่หน้าประตูห้องก่อนจะหันกลับมาพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
ครูแสน - "กูอยู่ข้างเดียวกับพวกมึงเสมอ" 
วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม 2009 เวลาประมาณ 1245 pm ณ หมู่บ้านแห่งนึงในสุไหงโกลก
นิโอ๊ะ - "เฮ๊ย เป็นไรป่าววะ ? ....ช่วงนี้เหม่อบ่อยนะ เป็นห่วงไอ้สู้หรือไง ? กัดกันงอนกันเป็นเด็กไปได้"
ผม - "เหอะๆ คนนะไม่ใช่หมา อีกอย่างกูไม่ได้งอนมันด้วย กูน่ะ ....."
นิโอ๊ะ - "เออๆ จะอะไรก็ช่าง กูไม่สนใจเรื่องของพวกมึง 2 ตัวละ กูสนใจไอ้นั่นว่ะ" รถยี่ห้อ Toyota Altis สีดำเลี้ยวผ่านพวกผมไปทางบ้านของเป้าหมาย
ผม - "คาดว่าเป้าหมายอยู่ในรถยนต์สีดำยี่ห้อ Toyota Altis หมายเลขทะเบียน ศก 2xx กรุงเทพมหานครฯ ....กำลังรอการยืนยันเป้าหมายก่อนเข้าจับกุม"
??? - "Target Confirm !!! All unit standby .....Wait for my mark ....3 ....2 ....1 Go !!!"
พอสิ้นเสียงอนุมัติปฏิบัติการผมก็ลุกขึ้นหันหลังไปยิงขาและไหล่ของชายที่ยืนขายน้ำปั่นก่อนเลยทันที ชายคนนั้นล้มลงพร้อมวิทยุและปืนอีก 1 กระบอก
ผม - "จะขายน้ำปั่นทั้งทีหัดสนใจลูกค้าหน่อยนะอา ....วิทยุนี่ ....ขอนะ"
นิโอ๊ะ - "กูว่าแล้ว คนขายน้ำปั่นห่าไรใส่โอเมก้า ....ลูกน้องใครวะไวจริง" นิโอ๊ะสะกิดให้ผมหันไปดูอาบีดีนที่ปีนกำแพงเข้าไปยังบ้านของเป้าหมายอย่างไว
ผม - "เล็ก ....ฝากดูมันด้วยนะ มันกำลังเสียสมาธิ" ผมกด ว.5 หาไอ้เล็กเพื่อให้ดูอาบีดีนด้วย หลังจากนั้นไม่นานพวกผมต้องวิ่งหนีลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้าน
และชุมชนแออัดกันอย่างสุดชีวิตเพื่อออกจากวงล้อมของตำรวจในพื้นที่และกองกำลังทหารส่วนตัวของเป้าหมายที่ออกตามล่าพวกผมโดยมีบุตรเป็นคนบอก
ทางหนีทีไล่ให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ( ทั้งวิ่งผ่ากลางบ้านทั้งปีนกำแพงทั้งโดดข้ามรั้ว ) เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าหนียังไงก็ไม่รอดทำให้ผมคิดแผนเด็ดๆ ออก
เพื่อเบนความสนใจของตำรวจไปหาอีกฝ่ายนึง ( ทหารที่ตามล่าพวกผม ) ให้ตีกันเอง 
ไอ้เล็ก - "เจ๋งว่ะ คิดได้ไงวะ ? 
นิโอ๊ะ - "....ได้ผลเกินคาดแฮะ"
อาบีดีน - "แม่งตีกันเองซะงั้นน่ะหมวด"
ผม - "นี่แหละข้อเสียของทหารและตำรวจของไทย ....อีโก้เยอะเกิน ....รีบไปดีกว่าก่อนที่มันจะรู้ตัวว่าโดนหลอก"
ในที่สุดก็ถึงที่หมาย ....สถานีรถไฟสุไหงโกลก ( หอบแดก *.* )
บุตร - "ถ้าไม่มีการดีเลย์รถไฟขบวนพิเศษที่ 38 จะออกตอน 0220 pm  ....ตั๋วและเสื้อผ้าชุดใหม่อยู่ในรถใกล้ๆ กับสถานีรถไฟไปทางตะวันออกเฉียงใต้นะคะ"
ผม - "ขอบใจมาก ...โชคดีนะบุตร"
บุตร - "ค่ะ ผู้หมวดก็เช่นกัน ....ตัดสัญญาณใน 3 ... 2 ... 1 ..."
*******************************
วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม 2009 เวลาประมาณ 0945 am ณ ร้านขายข้าวแกงแห่งนึงใกล้ๆ กับสถานีรถไฟสุไหงโกลก
นิโอ๊ะ - "โจทย์มาแน่ะ ....สงสัยจะหนีจากนรกเพื่อมาหามึงโดยเฉพาะ"
ผม - "คนไหนล่ะ ? โจทย์กูเยอะแยะ"
นิโอ๊ะ - "โจทย์คนล่าสุดที่มึงให้ที่อยู่ไปไง"
ผม - "กะแล้วว่ามันต้องมา คิดถูกแฮะที่นัดเอาไว้ที่นี่ ....ทหารเยอะอย่างนี้มันคงไม่กล้าทำไรบ้าๆ หรอก" 
นิโอ๊ะ - "รู้ได้ไง ? ....ไม่ถึง 5 เมตรแล้วเน้อเหลี่ยม" นิโอ๊ะเอามือลงใต้โต๊ะเตรียมควักปืนออกมายิง ผมเลยยกมือห้ามเอาไว้
ผม - "สายตามันฟ้อง ....ใช่มั้ยไอ้หนุ่ม ?" ผมลุกขึ้นแล้วหันไปจับมือเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะอะไรๆ ออกมาจากกระเป๋าสะพาย
??? - "
รู้ได้ไงว่าผมจะมา ?" เด็กหนุ่มตกใจหน้าซีดแขนเย็นเฉียบสั่นระริก
ผม - "พูดไทยได้ด้วยแฮะ ....มาๆ นั่งก่อนซิ กินข้าวมายัง ? ...นาซิๆ ( ภาษายาวีแปลว่ากินข้าว )" ผมเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายก็เจอมีดพก 2 เล่ม
??? - "
ผมถามว่าคุณรู้ได้ไงว่าผมจะมา ?" เด็กหนุ่มนั่งลงด้วยท่าทีหวั่นๆ หันรีหันขวาง
ผม - "รู้ซิ แถมรู้ด้วยว่าไม่ได้มาคนเดียว ....ให้เค้าออกมาเถอะ แล้วพี่จะสัญญาว่าแกกับเค้าจะปลอดภัยทั้งคู่" ผมเอามีดทั้ง 2 เล่มนั้นออกมาพันด้วยผ้าเช็ดโต๊ะ
แล้วทิ้งถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะส่งกระเป๋าสะพายนั้นคืน ไม่นานก็มีเด็กหนุ่มชาวมุสลิมอีกคนนึงเดินออกมาจากร้านขายโทรศัพท์ที่อยู่ไม่ไกล
ผม - "ก่อนจะพูดอะไรหรือถามอะไรหรือจะทำอะไรพี่ ......พี่ขอเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังก่อนได้มั้ย ?"
แล้วผมก็เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตในการทำงานตั้งแต่วันแรกที่เป็นทหารจนถึงวันที่เจอพ่อของเด็กหนุ่มคนนั้นให้ฟัง
BY :  XIII Post : 2010-01-10

No comments:

Post a Comment