Thursday, 13 January 2011

บทที่ 37 " รอยร้าวในหัวใจของทหารคนหนึ่ง "

ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อนช่วงต้นเดือนตุลาคม 2009 .....
วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2009 เวลาประมาณ 1215 pm ณ ชั้น 2 ของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนึงแถวๆ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานครฯ
??? - "
แปลกแฮะ คราวนี้มาตรงเวลา สงสัยจะหิวของฟรีจริงๆ" ชายหนุ่มคนนั้นดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือแล้วพูดจาประชดผมด้วยสีหน้านิ่งๆ
ผม - "พูดมากเด๋วตบหน้าสั่น มีเรื่องไรก็ว่ามา แต่ก่อนอื่น .....กูสั่งอะไรกินก่อนได้มะ ? กูหิวว่ะ ข้าวเช้ายังไม่ได้แดกเลย"
??? - "
อะๆ ตามสบาย มื้อนี้กูเลี้ยงเอง น้องๆ ....."
ผม - "แน่นอนๆ มึงต้องเลี้ยงกูอยู่แล้วล่ะเพราะมึงติดหนี้กูไว้เยอะ อย่าให้รื้อๆ ....พี่เอา ...." ผมสั่งอะไรมากินกันก่อนที่จะคุยเรื่องธุระสำคัญอย่างที่มันว่า
ชายหนุ่มคนนี้เป็นตำรวจชื่อ "บี" อายุมากกว่าผม 2 ปี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับตัวมันผมไม่ค่อยจะรู้สักเท่าไรเพราะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ( 1-2 ปีล่ะมั้ง )
รู้อย่างเดียวก็คือ ทุกครั้งที่มันมาหาผมมันจะต้องพาเรื่องยุ่งยากมาให้ผมด้วยทุกครั้งและครั้งนี้ก็เหมือนอย่างเคยๆ
ผม - "ว่าเว้ย ....มึงจะไม่นำปัญหามาให้กูมั่งได้มั้ยเนี่ย ?" ผมเซ็งสุดๆ เมื่อเปิดดูซองเอกสารที่มันส่งให้
ไอ้บี - "ปัญหาเค้ามีไว้แก้ไม่ใช่เอาไว้เซ็ง"
ผม - "ก็ให้คนอื่นแก้ซิ ทำไมต้องเป็นกู ? ....ทุกทีเลย" ผมเปิดดูรูปและเอกสารไปเรื่อยๆ พลางหยิบเกี๊ยวซ่ากินจนหมดจาน 
ไอ้บี - "ก่อนจะบ่นช่วยดูรูปนี้ก่อนซิ ....คุ้นๆ มะ ?" ไอ้บีหยิบรูปๆ นึงออกจากกระเป๋าเสื้อแล้วส่งให้ผมดู ผมถึงกับน้ำตาคลอเบ้าทันทีที่ดูรูปนั้น
ผม - "รูปนี้ถ่ายเมื่อไร ?" ไอ้บีดูนาฬิกาที่ข้อมืออีกครั้ง
ไอ้บี - "17 ชั่วโมงก่อน .....เพราะเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมึงโดยตรงน่ะซิกูถึงต้องให้มึงช่วย"
ผม - "1 ทุ่มเมื่อวานหรอ ? .....ความน่าเชื่อถือล่ะ ?"
ไอ้บี - "จากคนวงในเชียวน้า กว่าจะได้รูปนี้มากูเสียมือดีไปตั้ง 2 คนแน่ะ แต่ถ้าจะบอกว่าแหกตากันล่ะก็ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ต้องซีใหญ่มากเลยล่ะ"
ผม - "ละครลิงอีกแล้วหรอ ? ......ว่าแต่กูเห็นมึงใช้คนทิ้งๆ ขว้างๆ แบบนี้เสมอเลยนะ มันจะดีหรอ ? ลูกน้องเสียใจตายห่าเลย"
ไอ้บี - "ทำอย่างกับมึงไม่เคยสั่งให้ใครไปตายแน่ะ ว่าแต่ ....คำตอบล่ะ ? ....อย่าลืมว่ามึงกินเกี๊ยวซ่ากูไป 4 จานแล้วนะเพราะงั้นห้ามเบี้ยว"
ผม - "อ่า ก็ได้ๆ แต่ขอไรอย่าง .....อย่าให้ใครมาตามกับกูต้อยๆ อีก .....ไม่เนียนเอาซะเลยว่ะ" ผมชี้ลงไปนอกกระจกที่ผู้ชายคนนึงยืนคุยโทรศัพท์มองขึ้นมาข้าง
บนที่ผมนั่งอยู่ตั้งแต่ผมเดินเข้าร้าน กับอีกคนก็คือแม่สาวออฟฟิสนมโตที่นั่งหันหน้ามาหาผม ดื่มแต่ชามะนาวอยู่ตั้งแต่ผมเดินขึ้นมาไม่ยอมสั่งอะไรกิน
ไอ้บี - "หูตาไวเหมือนเคย ......พวกเด็กฝึกงานน่ะ เห็นอยู่กันว่างๆ เลยเอามาเทสต์ภาคปฏิบัติกันดูน่ะ อืมมมม สงสัยจะตกแฮะ"
ผม - "มิน่า ครูมันห่วยน่ะซิลูกศิษย์มันเลยห่วยตาม ...เอางี้ เด๋วกูสอนแม่สาวทรงโตนั่นให้เอง รับรองผลเรื่องการสะกดรอยและการติดตาม เจ๋ง"
ไอ้บี - "อ๋อหรอ ? กูว่ามึงจะสอนเรื่องอื่นมากกว่าน่ะซิ .....ว่าแต่จะบอกไอ้สู้กับไอ้บังมันมั้ย ?"
ผม - ".....ไม่ล่ะ ขอดูให้เห็นกับตาตัวเองก่อนดีกว่า .....คนเชี่ยวชาญเรื่องวัตถุระเบิดขนาดนี้มีเยอะแยะไป อีกอย่าง .......แจ๊คมันก็ ....."
ไอ้บี -"เอาเถอะ กูให้สิทธิ์มึงเต็มที่ที่จะตามเรื่องนี้ก่อนที่พ่อกูจะลงมือส่งคนไปลากคอมันเข้าตาราง ....แย่ที่สุดคงต้องยิงทิ้งถ้ามันขัดขืน"
ผม - "แปลว่าพ่อมึงไม่รู้เรื่องที่มึงมาคุยกับกูวันนี้ใช่มะ ? .....เฮ้อออ ตัดหน้ากันเองอีกแล้วพ่อลูกคู่นี้"
ไอ้บี - "คงงั้น กูกะจะบอกเค้าหลังงานวันพรุ่งนี้อีกสัก 2-3 วัน กูคิดว่ามึงคงก้าวนำเค้าไปแล้วล่ะ ....เออ มึงไปด้วยซิพรุ่งนี้ ที่สามพราน มีคนบ่นคิดถึงมึงแน่ะ"
ผม - "สามพราน ??? .....มีงานไรวะ ? แล้วใครมาบ่นคิดถึงกู ? พี่ส้มหรอ ?"
ไอ้บี - "วันที่ 13 ตุลาคม วันไร ?"
ผม - "....วันอังคารไง โง่จังมึงนี่"
ไอ้บี - "มึงซิโง่ พรุ่งนี้วันตำรวจต่างหาก"
ผม - "ก็กูไม่ใช่ตำรวจนี่นา ทำไมต้องใส่ใจด้วยล่ะ ?"
ไอ้บี - "ไม่เคยได้ยินหรอ ? รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกห่าม โง่ได้อีกนะเราน่ะ"
เวลาต่อมา ณ สำนักงานใหญ่ของหน่วยแห่งนึงด้านความมั่นคงในกรุงเทพมหานครฯ
นิโอ๊ะ - "เหม่อ .....ไปถึงไหนล่ะนั่น ?" ผมตกใจที่นิโอ๊ะเอาปากกามาจี้คอผมจากด้านหลัง
ผม - "อ้าว เข้ามาตั้งแต่เมื่อไรหรอ ?" 
นิโอ๊ะ - "นั่งเหม่อๆ อย่างนี้เด๋วก็ได้ไปนรกหรอก"
ผม - "....ก็ดีน่ะซิ ยังไงทุกคนก็รอกูอยู่นี่นา" นิโอ๊ะโดดขึ้นมานั่งบนโต๊ะผมแล้วจ้องหน้าผมเขม็ง
ผม - "เอ้อ วันนี้สอนเสร็จเร็วนะ ยังไม่ 4 โมงเลยนี่ แล้วๆๆ กลับมาตอนไหนล่ะ ? ตะกี้เองหรอ ? ไม่เห็นโทรบอกเลย"
นิโอ๊ะ - "วันนี้วันจันทร์กูมีสอนซะที่ไหนล่ะ .....มึงเป็นไรเนี่ย ? ปิดบังไรกูอยู่ใช่มะ ? บอกมาๆ" นิโอ๊ะจับหัวผมเขย่าโขกกับเบาะเก้าอี้จนผมมึนหัว ><
ไอ้สู้ - "เฮ้ออออ เล่นกันเป็นเด็กไปได้เนาะ" ไอ้สู้เปิดประตูเข้ามาเห็นผมกับนิโอ๊ะนัวเนียกันอยู่ก็ส่ายหน้าจุดบุหรี่นั่งดูดอยู่ตรงหน้าต่าง
ผม - "ไอ้สู้ ช่วยกูด้วยยยยย ไอ้หมอเถื่อนมันจะฆ่ากูแล้วววววว อ๊ากกกกกก"
นิโอ๊ะ - "คิดว่าคนเจ็บอย่างมันจะมาช่วยไรมึงได้หรือไง ? มีไรพูดออกมาให้หมด คายออกมาๆๆ" นิโอ๊ะเอาดินสอมาใส่ไว้ที่ร่องนิ้วผม 2 ด้ามแล้วใช้มือขวา
บีบเต็มแรงจนผมแหกปากลั่นห้อง *0* พอผมร้องมันก็เอาเสื้อวอร์มที่ผมแขวนไว้มารัดคอล็อคไว้กับเก้าอี้แล้วดึงเต็มแรง ไอ้สู้ก็ได้แต่นั่งขำดูดบุหรี่สบายใจเฉิบ
ผม - "อ๊ากกกกกก ยอมแล้วก๊าบบบบบบ โอ๊ยยยย เจ็บนิ้วอ่ะสู้ ดูดิ ฮือๆ .....นิโอ๊ะ นับวันยิ่งป่าเถื่อนเหมือนไอ้แจ๊คเข้าไปทุกทีนะมึงอ่ะ"
นิโอ๊ะ - "พูดมากเด๋วพ่อก็เลคเชอร์วิชาการสอบปากคำให้อีกหรอก บอกมา กูว่าต้องมีไรแน่ๆ เลยว่ะสู้ ไม่งั้นมันไม่เหม่อถึงขนาดกูเข้ามาแล้วยังไม่รู้ตัวหรอก" 
ไอ้สู้หันมามองหน้าผมทันทีดับบุหรี่แล้วโยนทิ้งลงหน้าต่างจับไหล่ผมให้นั่งลงที่เก้าอี้แล้วยิ้มก่อนจะวกไปทางด้านหลัง
ไอ้สู้ - "ถ้าจะให้ไอ้เหลี่ยมนี่พูดความจริงถึงจะทำอย่างนั้นมันก็ไม่ปริปากพูดออกมาหรอก ...ต้องอย่างนี้" ไอ้สู้ล็อคคอผมแล้วกัดหูขวาผมเต็มที่
ผมกรีดร้องดังลั่นห้องสุดเสียงกว่ารอบแรกด้วยอาการทุรนทุรายน้ำหูน้ำตาไหลกรีดร้องเป็นควายถูกเฉือด >< ( อายชิบหาย ) และแล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
??? - "
เอ่อออ เกิดไรขึ้นหรือครับจ่าหมอ ? ผม ...ได้ยินเสียงผู้หมวดร้องลั่นห้องเลย ....เข้ามาดูน่ะครับ" นิโอ๊ะวิ่งไปเปิดประตูแง้มหน่อยนึงแล้วตอบกลับไป
นิโอ๊ะ - "อ๋อ พอดีกำลังทำแผลให้มันอยู่น่ะ มันสำออยเลยร้องเป็นควายถูกเชือดน่ะ ไม่มีไรหรอกๆ กลับไปทำงานกันนะ" .....ไอ้บังตอแหลอีกแล้ว -*-
ไอ้กุ้ง - "เอ่อออ ...ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะครับผู้หมวดสู้ ?" ผมถูกไอ้สู้เอากุญแจมือจากลิ้นชักผมล็อคมือทั้ง 2 ข้างไว้กับเก้าอี้แถมแม่งเอาเสื้อวอร์มอุดปาก
รัดคอหมุนเก้าอี้ให้ผมนั่งหันหลังกับประตูที่ไอ้กุ้งเข้ามาดูโดยมีไอ้สู้นั่งอยู่บนโต๊ะบังตัวผมไว้แล้วยังเหยียบเป้าผมไว้ไม่ให้ดิ้น .....ป่าเถื่อนที่สุด T_T
ไอ้สู้ - "สบมยห มีไรแล้วเด๋วเรียกเอง ......โฮะๆๆ มันไปแล้ว เอาล่ะมาต่อเรื่องของเรากันเถอะ อยากจะโดนงับหูอีกสักข้างหรือจะยอมบอกความจริง ?"
ผม - "ยอมแล้วๆ ไม่เอาแล้ว .....เชี่ย น้ำตาไหลเลย ไขกุญแจออกก่อนเด่ะ .....สักข้างก็ยังดีจะเช็ดน้ำตา"
ไอ้สู้ - "เรื่องมากจริงไอ้นี่ .....เรื่องที่มึงบอกพวกกูไม่ได้แถมยังทำให้มึงนั่งเหม่อได้ขนาดนี้ ....เกี่ยวกับพวกกูด้วยใช่มะ ?" ไอ้สู้ไขกุญแจให้ผมออก 1 ข้าง
ผม - "ใช่ ....มึงจะเชื่อกูมั้ย ....ถ้า ....กูบอกว่า ....ไอ้แจ๊ค อาจจะยังมีชีวิตอยู่ ????" ไอ้สู้กับนิโอ๊ะทำหน้าตกใจสุดๆ
ผม - "แต่ ....อยู่คนละข้างกับเรานะ .....รูปนี้กูได้มาจากไอ้บีเมื่อเที่ยง ถึงจะไม่ชัดแต่ดูยังไงก็เป็นไอ้แจ๊ค" ไอ้สู้รีบหยิบรูปไปดูทันที
ผม - "หลังจากงานที่สามพรานวันพรุ่งนี้ กูจะเริ่มตรวจสอบว่าใช่หรือไม่ใช่ ก่อนที่พ่อไอ้บีจะส่งคนตามล่ามัน" ผมสะเดาะกุญแจอีกข้างด้วยคลิปหนีบกระดาษ
นิโอ๊ะ - "กูไปด้วย" ผมลุกขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาแขวนเสื้อวอร์มไว้ที่เดิม
ไอ้สู้ - "แน่นอนกูก็จะไปด้วย"
ผม - "ไม่ มึงยังไม่หายดี มึงจะเป็นภาระให้กูปล่าวๆ อ่อนๆ อย่างมึงน่ะ ......" ไอ้สู้ต่อยหน้าผมทันทีเพราะผมพูดแทงใจดำของมันเข้าแบบเต็มๆ
ไอ้สู้ - "กูไม่อ่อนและไม่เคยเป็นภาระให้ใครทั้งนั้น .....ที่สำคัญกูก็อยากรู้เหมือนกันว่าใช่ไม่ใช่"
ผม - "นั่นซินะ แต่ถ้าร่างกายมึงปกติดี ....ป่านนี้กูคงร่วงพื้นไปแล้ว ....แต่นี่แค่เซ ถ้าไม่ให้เรียกว่าอ่อนแล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ ? .....อยู่เฉยๆ ไปเถอะ"
ไอ้สู้ - "จะลองอีกสักหมัดมั้ยล่ะ ?" ไอ้สู้ถอดเสื้อชุดอ่อนออกเหลือแค่ครึ่งท่อนหักนิ้วดังกร๊อบๆ
ผม - "ถึงจะเป็นคนป่วยแต่กูก็ไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ" เมื่อเห็นอย่างนั้นผมเลยถอดมั่ง
ไอ้สู้ - "นั่นแหละที่กูกำลังต้องการอยู่พอดี" ผมกับไอ้สู้เหวี่ยงหมัดใส่กันจนต่างคนต่างหน้าหัน
นิโอ๊ะ - "หยุด !!! พอได้แล้ว ทั้งคู่น่ะแหละ" นิโอ๊ะเข้ามาขว้างไว้จนผมกับไอ้สู้กระเด็นแยกออกจากกัน
ผม - "มึงด้วยนิโอ๊ะ ไม่ต้องไป ....เกะกะกูปล่าวๆ ถ้าจะให้พูดตามความจริงแล้วคนที่ฝีมือสูสีกับคือไอ้แจ๊คก็คือกู อย่างมึง 2 ตัวจะไปทำไรได้
ไอ้สู้ก็ได้แต่เป็นลูกไล่ให้กูที่คอยแต่ชี้เป้าให้ เคยยิงเองได้มั่งมั้ยล่ะ ? ส่วนไอ้บังก็อยู่แต่แนวหลังคอยทำแผลอย่างเดียว นานๆ ทีจะได้เข้าปะทะจังๆ
ถามจริงๆ ถ้าพวกมึงไม่ได้กูไม่รู้จักกู พวกมึงจะมายืนอยู่ ณ จุดนี้ด้วยตัวเองกันได้มะ ? สำนึกแล้วทำตามซะ ถ้ายังอยากอยู่กับกู"
ไอ้สู้เดินเข้ามาวางปากกาที่ผมซื้อให้ตอนวันเกิดมันที่โต๊ะทั้งน้ำตาแล้วเดินออกไปจากห้อง
นิโอ๊ะ - "กู ....ผิดหวังในตัวมึงมากนะ" นิโอ๊ะถอดแหวนประจำกลุ่มปาใส่ผมเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกไปเช่นกัน
ผมเดินไปล็อคห้องแล้วนั่งห้องไห้โฮอยู่คนเดียว ผมเสียใจมากที่พูดกับพวกมันอย่างนั้น แต่ที่พูดไปเพราะอยากไปคนเดียวไม่อยากให้พวกมันมาซวยเพราะผม
ผมรู้อยู่แก่ใจมาตลอดว่าที่จริงแล้ว คนที่ห่วยแตกที่สุดในกลุ่มมาตั้งแต่ไหนแต่ไรคงจะเป็นตัวผมเองมากกว่า ไม่ว่าจะลำบากขนาดไหนไอ้สู้ก็จะอยู่ข้างๆ ผม
ไม่เคยห่าง ถ้าผมเศร้าไอ้แจ๊คจะคอยทำให้ผมยิ้มทำให้ผมร่าเริงสนุกสนานอยู่ตลอดเวลา ถ้าผมมีปัญหานิโอ๊ะจะคอยให้คำปรึกษาดีๆ ชี้แนะให้เสมอ 
เรื่องที่ผมใช้เส้นสายเพื่อให้พวกมันมาอยู่กับผมแล้วต้องเจอเรื่องแย่ๆ ร้ายๆ จนไอ้แจ๊คตาย นี่ก็ทำให้ผมรู้สึกเสียใจมาตลอดจนถึงทุกวันนี้
ผมรักพวกมันมาก ...มากกว่าคำว่าเพื่อนซะอีก ไม่รู้จะหาคำไหนมาเปรียบได้เพราะพวกผม 4 คนผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันมาหลายปี
แต่ละคนสามารถตายแทนกันได้ ซึ่งพวกผม 4 คนก็ทำมากันแล้วในการสละชีวิตของตัวเองเพื่อกันและกัน
ผมนั่งคิดที่ครูแสนพูดเมื่อตอนงานศพป๋า "ผลจะออกมายังไงก็ช่างแต่ถ้าทุกฝ่ายแฮปปี้ก็ดีแล้ว" ผมเลยเลือกที่จะไปเองคนเดียว ยอมที่จะรับกรรมเพียงคนเดียว
กรรมที่ผมพาพวกมันมาเจอเรื่องร้ายๆ ไม่ว่าจะทั้งไอ้สู้ที่ครอบครัวต้องระส่ำระสาย นิโอ๊ะที่โดนตัดขาดจากทางบ้าน และที่แย่ที่สุดคือ ...การตายของไอ้แจ๊ค
แต่ผมนี่ซิยังสามารถอยู่ได้อย่างสุขสบายต่างจากคนอื่น ทำให้ผมคิดได้ว่าผมนี่แหละที่อ่อนแอและเห็นแก่ตัวที่สุดในกลุ่ม 
ทุกเรื่องที่แย่ๆ ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกมันเป็นเพราะผมคนเดียวทั้งนั้น ฉะนั้นครั้งนี้ผมจึงเลือกที่จะไปคนเดียว
ผมร้องไห้จนหลับไปนานเท่าไรไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงไอ้กุ้งมาเรียกว่าดึกมากแล้ว ผมเลยกลับบ้านทันที
วันเดียวกันเวลาประมาณ 0830 pm ณ บ้านผม จ.นนทบุรี
ไอ้โน๊ต - "เมื่อเย็นงานยุ่งหรอพี่ ? ผมโทรหาพี่ตั้งหลายครั้งแต่พี่ไม่รับสาย"
ผม - "อือ นิดหน่อย มารอนานยัง ? ....ว่าแต่มีเรื่องไรหรอ ?"
ไอ้โน๊ต - "พี่ว่าไอ้ดิ๊ฟช่วงนี้มันแปลกๆ มะ ? ดูเงียบๆ ซึมๆ ไม่ค่อยพูดกับใคร ....โดยเฉพาะกับพี่"
ผม - "นั่นซิ มันไม่สบายหรือป่าว ? หรือทะเลาะกับแฟนมัน ? เออ ใช่ มันมีแฟนใหม่แล้วนี่ ถ้าจำไม่ผิดชื่อเบียร์นี่หว่า"
ไอ้โน๊ต - "....หรือไม่ก็ทะเลาะกับไอ้เดียว" ผมนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
ผม - "....มีอะไรหรือป่าวโน๊ต ? เอ็งดูแปลกๆ นะ ....อย่าทำหน้าเครียดอย่างนั้นดิ"
ไอ้โน๊ต - "ผมน่ะแหละต้องถามพี่ ตั้งแต่กลับมาจากกาญจน์ ( น้ำตกไทรโยคน้อย ) ไอ้ดิ๊ฟก็แปลกไปๆ ยิ่งไอ้เดียวมายิ่งแปลกไปกันใหญ่"
ผม - "แปลก ??? ยังไงล่ะที่เอ็งว่ามันแปลก ??? พี่ว่าปกติดีนี่"
ไอ้โน๊ต - "ผมไม่ได้โง่เป็นควายนะพี่ พี่คิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างพี่กับไอ้ดิ๊ฟหรอ ? พี่กำลังทำให้พี่น้องเค้าผิดใจกันอยู่นะ ผมว่าพี่น่าจะไปขอโทษ ........"
ผม - "ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างมึง ....กล้าสอนกูเชียวหรอ ?" ผมระเบิดอารมณ์ออกไปอย่างลืมตัวพุ่งเข้าไปบีบคอไอ้โน๊ตแล้วกดมันลงนอนกับเตียง
ไอ้โน๊ต - "ใช่ ไอ้เด็ก ....ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม .....ที่พี่ว่านี่แหละ มัน ...อยากให้พี่รู้ตัว .....เลิกทำอะไร .....อย่างนี้สักที พี่มี ....พี่แอร์อยู่แล้วนะ แล้ว .....ทำไม ...."
ผม - "ขืนพูดมาอีกคำเดียว .....รับรอง" ผมเงื้อหมัดซ้ายเตรียมต่อยปากมัน แต่ไอ้โน๊ตถีบขาบิดมือผมแล้วพลิกตัวหนีหมัดผมได้ทันแบบฉิวเฉียด
ไอ้โน๊ต - "ผมเกลียดพี่!!! เกลียดพี่ที่สุด!!!" ไอ้โน๊ตตะโกนด่าใส่ผมทั้งน้ำตาก่อนจะวิ่งลงไปข้างล่างแล้วขับมอไซต์ออกไปอย่างเร็ว
ตอนนั้นผมยืนงงทำไรไม่ถูกมือไม้สั่นไปหมด อยู่ดีๆ ขาก็หมดแรงนั่งทรุดลงกับพื้นแล้วถามตัวเองว่า "ทำไมถึงทำอย่างนั้น ?" ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ
มือขวาที่คอยอุ้มพยุงไหล่,ลูบหัว,ลูบหลัง,จับมือมันสอนยิงปืนและสอนอะไรต่างๆ นาๆ แต่ตะกี้ผมกลับใช้มือขวาบีบคอมันเต็มแรงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
วันนี้ผมเป็นอะไรไม่รู้เหมือนผีเข้า ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งเพื่อนที่รักที่สุดหรือน้องที่รักที่สุดกลับโดนผมทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ
ผมพยายามโทรหาไอ้โน๊ตอยู่นานมันก็ไม่รับสาย ผมเลยไปหามันที่อู่แต่ทุกคนบอกไม่เห็นแล้วก็ติดต่อไม่ได้ด้วย
ไอ้นุ๊ก - "มีไรหรือป่าวพี่ ?"
ผม - "ป่าว ไม่มีไร"
ไอ้นุ๊ก - "ต้องมีแแน่ๆ ไม่งั้นพี่ไม่ ....ร้องไห้หรอก" ผมหันหน้าหลบไม่ให้ไอ้นุ๊กเห็นน้ำตาแล้วขับรถออกไป ไม่ถึง 1 นาทีไอ้เดียวก็โทรหาผม
ไอ้เดียวบอกว่าไอ้โน๊ตมารับไอ้ดิ๊ฟไปไหนไม่รู้แถมเห็นไอ้โน๊ตร้องไห้ด้วย ไอ้เดียวเป็นห่วงไอ้ดิ๊ฟแถมรู้ว่าผมมีปัญหากับไอ้โน๊ตเลยอยากช่วยด้วยไม่มากก็น้อย 
ผมเลยไปรับไอ้เดียวระหว่างทางผมกับไอ้เดียวไม่พูดอะไรกันสักคำ ผมกดโทรศัพท์หาเพื่อนไอ้โน๊ตทุกคนที่ผมรู้จักแต่ไม่มีใครรู้
ไอ้เดียว - "พี่ ....มีอะไรกับ ....ไอ้ดิ๊ฟแล้วใช่มั้ย ? .....ถึงไม่บอกผมก็รู้"
ผม - "พี่จะไม่แก้ตัว ....ใช่ .....พี่ขอโทษ" ไอ้เดียวนั่งน้ำตาหยดแหมะๆ
ไอ้เดียว - "นอกจากผมกับไอ้ดิ๊ฟ ....พี่ก็ยังมีคนอื่นอีกใช่มั้ย ?"
ผม - "ใช่ ....แต่คนอื่นต่างกับเอ็ง 2 คน ที่ได้แค่ร่างกายแต่ไม่ได้ใจพี่ไปด้วย ไอ้ดิ๊ฟสนิทกับพี่มากกว่าเอ็งก็จริงแต่เอ็งได้ใจพี่ไปมากกว่ามัน เพราะอะไรพี่ก็บอก
ไม่ได้เหมือนกัน แต่พี่กล้าพูดได้เลยว่าเอ็งน่ะเป็นกิ๊กพี่แต่ไอ้ดิ๊ฟเป็นแค่น้อง น้องที่พี่ห้ามใจไม่อยู่จนเลยเถิดไป ....เอ็งไม่ต้องเชื่อในสิ่งที่พี่พูดก็ได้นะ"
ผม - "พี่ไม่อยากได้รับการยกโทษจากเอ็ง แต่อยากให้เอ็งเข้าใจพื้นฐานของมนุษย์ ....คือความไม่รู้จักพอ"
ไอ้เดียว - "แล้วเมื่อไรพี่จะพอ ?" ไอ้เดียวถามผมทั้งน้ำตาซึ่งผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเมื่อไรผมถึงจะพอ แล้วผมก็นึกอะไรบางอย่างออก
เวลาต่อมา ณ ใต้สะพานพระราม 5 ทางฝั่งวัดสังฆทาน
ผม - "จะมาตกปลาก็น่าจะบอกกันตั้งแต่ทีแรกจะได้เตรียมเบ็ดมาด้วย" ผมเข้าไปหาไอ้โน๊ตกับไอ้ดิ๊ฟยืนอยู่ดูแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใต้สะพานพระราม 5
ไอ้เดียว - "ดิ๊ฟ ....กลับบ้านเหอะ กูหิวข้าวแล้วว่ะ มึงไม่หิวหรือไง ? กลับไปเด๋วกูทำไข่น้ำให้กิน ...ปะ กลับกันเถอะ" ไอ้เดียวเดินเข้าไปจูงมือไอ้ดิ๊ฟให้กลับ
ไอ้ดิ๊ฟ - "กูไม่หิว!!! อย่ามายุ่งกับกู!!!" ไอ้ดิ๊ฟสะบัดมือแล้วผลักไอ้เดียวจนล้ม
ผม - "โน๊ต พรุ่งนี้ที่สามพรานตำรวจเค้าไปเดินสวนสนามกัน ไปดูมั้ย ? เอ็งชอบไม่ใช่หรอ ?" ผมเดินเข้าไปจับไหล่ไอ้โน๊ตแต่มันหันกลับมาพร้อมกับมีดพับ
ในมือที่ผมให้มันไว้เพื่อป้องกันตัว ไอ้โน๊ตจะแทงผมแต่ผมจับแล้วบิดออกจนล้มหน้าทิ่ม
ผม - "เวลาแทง ...อย่าหลับตาซิ ...ลองอีกที" ไอ้โน๊ตลุกขึ้นตั้งท่าแล้วเข้ามาซัดผมชุดใหญ่ผมได้แต่ปัดป้องอย่างเดียวโดยไม่สวนกลับ
ไอ้โน๊ต - "พี่ทำผมทำไม ??? พี่ทำให้เพื่อนผมทะเลาะกันทำไม ??? พี่ไม่รักพวกผมแล้วหรอ ???" ไอ้โน๊ตร้องไห้เหวี่ยงมีดใส่ผมมั่วซั่วไปหมด
ผม - "พี่ขอโทษ ....ด้วยเลือดของพี่ ....พอจะยกโทษให้พี่ได้มั้ย ?" ผมเอาหลังมือข้างขวารับการแทงครั้งสุดท้ายของไอ้โน๊ตจนเลือดไหลเต็มมือ
ไอ้โน๊ตตกใจมือสั่นอ้าปากค้างพูดไรไม่ออก ผมดึงตัวมันไปกอดทั้งน้ำตาไอ้โน๊ตเลยกอดผมแน่นแล้วร้องไห้โฮพูดแต่คำว่า "ผมขอโทษๆๆ" ดังลั่น
ไอ้เดียว - "ดิ๊ฟ ....กลับบ้านกันนะ กูหิวแล้ว .....กูไม่โกรธมึงหรอกเรื่องที่ ....มึงมีไรกับพี่น็อต เราพี่น้องกัน ....กูให้อภัยมึงได้"
ไอ้ดิ๊ฟ - "แต่กูไม่ให้อภัยมึง!!! กูรู้จักพี่เค้าก่อนมึง!!! กูไปไหนมาไหนกับพี่เค้าก่อนมึง!!! กูรักพี่เค้าก่อนมึง!!! แต่พอมึงมา .....มึง .....มึง .....มึง"
ไอ้ดิ๊ฟกระชากคอไอ้เดียวเข้ามาต่อยหน้า 1 หมัดก่อนจะทุ่มไอ้เดียวลงไปนอนกับพื้นแล้วขึ้นคร่อมต่อยเป็นชุด ผมเลยผละจากไอ้โน๊ตเข้าไปดึงไอ้ดิ๊ฟออกมา
ไอ้เดียว - "แล้วไงวะ ??? มึงมาก่อนแล้วไง ??? ....ห๊า ??? กูอยู่ตั้งเชียงใหม่แต่มึงอยู่ใกล้พี่น็อตตลอดเวลา กูซิต้องร้อง!!! กูซิต้องอิจฉา!!! ไม่ใช่มึง!!!"
ไอ้เดียววิ่งเข้ามาต่อยไอ้ดิ๊ฟจนร่วงพื้นแล้วกระหน่ำหมัดคืนไปชุดใหญ่ จังหวะสุดท้ายต่างคนต่างโดนหมัดของแต่ละฝ่ายจนหมดแรงเมาหมัดนอนกองกับพื้น
ไอ้เดียว - "กูซิต้องเสียใจ ....ต้องเสียใจที่มึง ....กับพี่น็อต ....สวมเขาให้กู ....แต่ ....กูไม่สนหรอก กู ....ให้อภัยมึงได้ ....แต่ขออย่างเดียว ....กลับบ้านกับกูนะ"
ไอ้ดิ๊ฟกับไอ้เดียวนั่งกอดคอกันร้องไห้ ทำให้ผมยิ่งคิดได้ว่าตัวผมมันเลวขนาดไหนที่ทำให้พี่น้องคู่นี้ที่รักกันมากต้องมาทะเลาะกันเพราะผม
ตอนนั้นผมคิดอยู่ 2 อย่าง ถ้าไม่ทุ่มสุดตัวจนตายในงานที่รับมาจากไอ้บีก็จะอยู่ที่อเมริกาตลอดไปไม่กลับมาที่เมืองไทยอีก ( ไปอยู่กับลูกสาวครูแสน 555 )
เพราะนักรบที่แท้จริงไม่เลือกสนามรบอยู่แล้วไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม และอีกอย่าง ....ทั้งไอ้สู้และนิโอ๊ะมันคงไม่ให้อภัยกับผมแล้วล่ะ และมันก็คงไม่ไปฝึกกับ
ผมที่อเมริกาแล้วเช่นกัน ต่อให้กลับมาก็ไม่เหลือใครอยู่ดีผมเลยตัดสินใจว่าจะใช้เวลาที่เหลือกับงานนี้เต็มที่จะได้หายข้องใจว่าคนในรูป ....ใช่ไอ้แจ๊คหรือไม่ ?
***************************
BY :  XIII Post : 2009-10-23

No comments:

Post a Comment