Saturday, 11 December 2010

บทที่ 4 " ภาระที่แบกไว้กับหัวใจที่เหลืออยู่ "

ย้อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วช่วงเดือนกันยายน..........
วันเสาร์ 16 กันยายน เวลาประมาณ 0730 am ที่ห้องนอนของผม บ้านที่บางใหญ่
ทัก - "เฮ๊ย น็อต ช่อง 9 เลขอะไรวะ ? จะดูแฮมทาโร่ เออ รีโมตๆ อยู่ไหนๆ ?" ทักมันกำลังง่วนอยู่กับการหารีโมตและการเปลี่ยนช่อง
ผม - ".....แฮมบ้านแกมันมาตอนนี้หรือวะ -*- ......มันเข้ากับแกมากเลยนะไอ้แฮมทาโร่เนี่ย -*-" ผมตื่นเพราะทักมันปลุก ด้วยอารมณ์.....แฮมทาโร่ เหอะๆ - -* 
ผมควานรีโมตในผ้าห่มโยนให้มันแล้วก็หลับต่อ ตื่นมาอีกทีก็ 10 โมงกว่าเพราะเสียงแม่ปลุกให้ลงไปทานข้าวเช้า......หรือเที่ยงวะ -*-
ในที่สุดผมก็ต้องพามันไปเขาดินจริงๆ น่ะแหละ ยอมมันจนได้ เหอะๆ -*-  ไปถึงเขาดินก็ประมาณเที่ยงเกือบบ่าย ก็หาข้าวกินกันรอบสอง แล้วก็เดินเที่ยวเล่น
ถ่ายรูปอยู่ในเขาดินแบบทุกซอกทุกมุม มันก็แปลกปนสนุกไปอีกแบบที่มาเที่ยวเขาดิน เดินถ่ายรูปกันสองคนแต่ก็ดีเพราะไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับมันสองคน
นอกจากร้านเกมส์ 555 เฮฮาบ้าๆ บอๆ กันตามประสา พอสักประมาณบ่าย 3 จะบ่าย 4 มันก็เริ่มดูนาฬิกาแล้วไม่ค่อยหัวเราะเริ่มไม่ค่อยเล่นเหมือนก่อนหน้านี้
ผม - "รถออกจากสายใต้ไปสุราษฏร์ตอนกี่โมง ?" ผมถามคำถามแทงใจดำมันมากมาย มันเลยนิ่งไปแปปนึง
ทัก - "......2 ทุ่มยี่สิบ นี่ก็จะ 4 โมงเย็นแล้ว รู้งี้มาแม่งตั้งกะตี 5 แม่งเลย.....เซ็งว่ะ" 
ผม - "เหอะๆ แกจะมาช่วย จนท. เขาเปิดกรงหรือไง ? -*- เฮ้ออออ ทำไมเวลาวันนี้มันผ่านไปไวจังวะ ?"
ทัก - "......ตอนเรามีความสุขเวลามันก็ผ่านไปเร็วอย่างนี้แหละ" ทักพูดแล้วก็มองหน้าผม
ผม - ".......เวลาน้อยนิดแต่มีค่าอนันต์ พ่อมักพูดอย่างนั้นเสมอๆ จริงของเค้าแฮะ .....งั้นก็รีบๆ ไปถ่ายรูปต่อดีกว่า ตรงด้านนู้นยังไม่ได้ไปเลย ให้ว่องๆ"
จนประมาณ 5 โมงกว่าเกือบ 6 โมงทักมันก็เอารูปไปล้างที่ท่าน้ำนนท์ระหว่างรอรับรูปก็หาอะไรกินกันแถวๆ นั้น (ข้าวมันไก่ทอดอร่อยโคตร 555)
ทัก - "วันนี้หนุกดีว่ะ เสียดายเวลาน้อยไปหน่อย ที่จริงอยากไปพิพิธภัณฑ์ ไปดูรูปมากกว่า" ผมจำได้ว่ามันชอบวาดรูปมากแถมวาดดีซะด้วย
ผม - "อือ งั้นมาคราวหน้าค่อยไป ......ถ้าไม่มาเด๋วจะถ่ายรูปแล้วส่งไปให้ .....เจ็บใจเล่นๆ เยาะเย้ยๆ หึๆ" มันยิ้มแล้วก็เตะผมทีนึง ผมก็สวนซิ
พอมาถึงบ้านก็ประมาณทุ่มกว่า ผมเก็บของใช้ให้มันรีดเสื้อรีดกางเกงของมันเสร็จ มันก็อาบน้ำเสร็จพอดี มันเดินนุ่งผ้าขนหนูแล้วเดินมากอดผมจากข้างหลัง
ผม - "ใส่ซะ อย่าลีลา ไม่มีเวลามาโอ้เอ้แล้ว แถวนั้นรถติดแถมวันนี้หัวเกรียนกลับกรมกันเยอะ เด๋วจะตกรถซะ" ผมยื่นเสื้อกับกางเกงบอกให้มันไปแต่งตัว
แล้วผมก็ถ่ายรูปคู่มันตอนใส่เครื่องแบบเต็มยศ หลังจากนั้นมันก็จดที่อยู่ที่ รร.นสต. ให้ มันบอกเอาไว้เขียนจดหมายมาหามัน (ไม่ก็ส่งตังค์ไปให้มันใช้ -*-)
เวลาประมาณ 0800 pm ที่สถานีขนส่งสายใต้ ทักก็เข้าไปซื้อตั๋วแล้วมานั่งคุยกับผม มันก็คอสร้อยประคำที่ข้อมือผม สร้อยเส้นนี้ผมใส่ติดตัวมาตลอดหลายปี
ทัก - "น็อต ทักขอสร้อยข้อมือที่น็อตใส่เส้นนั้นได้ไหม ? ทัก......"
ผม - "ไม่ให้ ให้ยืมเท่านั้น ถ้าแกไม่เอามาคืนเด๋วจะลงไปเอาเองพร้อมดอกเบี้ย" ผมพูดสวนทันควันแล้วก็ถอดให้ ทักมันก็ยิ้มแล้วใส่เลยทันที
เด็กรถ - "ท่านผู้โดยสารที่จะไปกับรถทัวว์....." พอเสียงเด็กรถพูดขึ้น ทักก็นั่งก้มหน้าเลยทันที ส่วนผมก็หันหน้าหนี มองไปที่รถที่มันจะขึ้น
ผม - "รถคันใหญ่ดีแฮะ ท่าทางจะนอนสบาย .....12 ชั่วโมงได้ละมั้งกว่าจะถึง ใช่มะ ?" ทักไม่ตอบได้แต่นั่งก้มหน้าแล้วพยักหน้าหงึกๆ 
ผมลุกขึ้นแล้วถือหมวกให้ ผมพูดไปมองหมวกมันไป มันก็ยังนั่งนิ่งก้มหน้า
ผม - ".....มีภาระอะไรก็ไปทำให้มันเสร็จๆ ซะ อีกไม่กี่เดือนแกก็เรียนจบแล้ว ทุกอย่างมันจะไม่ลำบากเหมือนตอนนี้หรอก" ผมพูดน้ำตาคลอเบ้า
ทักมันก็จับแขนผมแล้วลุกขึ้นน้ำตาคลอเบ้าหน้าตาเหมือนคนอมทุข์
ผม - "ยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยแล้วยิ้มเข้าไว้ ใส่เครื่องแบบมาให้เห็นทั้งทีเก๊กเท่ห์ๆ หน่อยเด่ะ" ผมพูดปลอบมันไปน้ำตาจะไหลไป มันยืนหลับตาแปปนึงแล้ว
ก็เปลี่ยนท่าทีไปเลย เป็นท่าทีที่ผมอยากจะเห็นคือความเข็มแข็งสมกับเครื่องแบบ มันยิ้มแล้วก็เดินไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับสมองผม ภาพที่เห็นมันช้าๆ สโลว์ๆ
ไปหมด หูอื้อหน้าร้อน ผมมองมันจากด้านหลังทุกอย่างเหมือนมันจะหยุดนิ่งเหลือแค่ภาพที่มันเดินอยู่ตรงหน้าผม แล้วมันก็หันกลับมา
ทัก - "เฮ๊ย รอทักนะ .....ไม่สิ ทักจะรอน็อตแค่ปีเดียวนะ ปีเดียว ตามทักให้ทันล่ะ ตำรวจยศอัพไวนะเฟ๊ย" มันพูดแล้วก็ยิ้มอย่างทุกที
ผม - "หึ ต่อให้ก่อนแล้วทำเป็นคุย ตำรวจขี้คุยอย่างงี้ทุกคนเลยป่าววะ ? เด๋วตามไปแน่.......รอแกแล้วมันน่าเบื่อ" แล้วผมก็ส่งหมวกให้ มันก็รับหมวกไปใส่
จัดแจงให้เข้าที่ก่อนที่จะวางกระเป๋าแล้วตบเท้าตะเบ๊ะให้ผมอย่างแข็งขัน
ทัก - "ขอบคุณครับ!!!" มันตะโกนขอบคุณผมซะลั่นเลย คนทั้งสถานีหันมามองผมกับมันกันให้รึ่ม วันนั้นผมอายแต่วันนี้ผมไม่อาย ผมเลยตะเบ๊ะมันกลับ
ผม - "เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ....... หึ ตำรวจแม่งหน้าด้านแถมเรื่องมากว่ะ ท่าทางจะคบไม่ได้" แล้วผมกับมันก็เอามือลงพร้อมกัน
ทัก- "น็อต......ขอทักจับมือหน่อยดิ" มันยื่นมาแล้วผมก็ยื่นมือไปจับมือมันที่สั่นๆ มันบีบมือผมเอาไว้แน่น เหมือนโลกจะหยุดหมุนไปแปปนึงเพื่อผมกับมัน
แล้วมันก็ปล่อยมือผมเดินผ่านผมไป ช่วงที่มันเดินผ่านผม ผมเอามือซ้ายจับที่ไหล่ซ้ายของมัน ช่วงที่ผมหันไปแล้วจะพูดอะไรไม่รู้ผมจำไม่ได้ ผมเห็นน้ำตา
ของมันที่ไหลรินลงมาอาบแก้มจากด้านข้าง ถึงจะใส่หมวกปิดหน้ายังไงผมก็เห็น ผมเลยเดินไปเลยโดยไม่พูดอะไรแล้วก็ไม่หันหลังกลับมามองมันด้วย....... 
ทุกๆ ก้าวที่ผมก้าวออกไปในตอนนั้น ผมคิดว่าผมไม่ได้ก้าวเพื่อออกห่างจากมัน แต่เป็นการก้าวเพื่อเข้าใกล้มันไปทุกขณะ เพราะงั้นผมถึงหยุดก้าวไม่ได้ 
ผมเดินไปจนถึงรถทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
********************

XIII Post : 2008-11-24

2 comments:

  1. เขียนได้ดีจริงๆครับ น้ำตาซึมเลยครับ จะติดตามต่อไปน่ะครับ

    ReplyDelete
  2. ตอนหลังๆ แรงกว่านี้อีก เหอะๆ
    ขนาดผมพิมพ์เองน้ำตายังแทบจะร่วงตาม

    ReplyDelete